“พุทธคุณแคล้วคลาดอยู่ยงคงกระพัน“
.
”ถ้าตำรวจปฏิบัติตนเป็นคนดี ชาวบ้านที่ไหนก็ชอบ
และให้ความร่วมมือในเรื่องการจับโจรผู้ร้าย
ถ้าตำรวจจับจริงๆ ก็ไม่มีโจรคนไหนรอดพ้นไปได้”
(จากหนังสืออนุสรณ์์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช เมื่อ 22 กพ.2550)
.
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) นายตำรวจชื่อดังหนังเหนียวแห่งวงการตำรวจไทย ผู้ปราบเหล่าจอมโจรร้ายมามากมายจนท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ รายชื่อโจรผู้มีอาคมขลังในยุคนั้นที่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่บุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของ ท่านขุนพันธ์ ได้แก่ อาทิเช่น เสือร้ายในภาคกลาง คือ เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือไหว เสือมเหศวร ส่วนภาคใต้ คือ เสือสัง หรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง และในปี พ.ศ. 2481 ปราบหัวหน้าโจรชื่อ “อะเวสะดอตาเละ” จนท่านได้ฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า “รายอกะจิ” ซึ่งแปลว่า “อัศวินพริกขี้หนู” แต่จะมียกเว้นคนเดียวที่ ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ไม่ได้ทำการจับกุม แต่แลกกับอิสระภาพนั้นคือ เสือดำ โดยใช้ศพลูกน้องของเสือดำเองเสียสละชีพแสร้งเป็นว่าเสือดำถูกฆ่าแล้ว ภายหลังจึงทราบว่า เสือดำ ยังมีชีวิตอยู่ โดย เสือใบ เสือมเหศวร ได้พบเจอกับ เสือดำ ในช่วงอายุมากแล้ว
ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เมื่อท่านจะออกไล่จับโจรร้าย ท่านจะต้องมีพิธีกรรม ดูฤกษ์ยาม ทิศมงคล และท่านยังเคยกล่าวเล่าไว้ว่า “ในการเลือกพระเครื่องนั้น เราต้องดูว่าอาจารย์ที่ทำพิธีปลุกเสกนั้นมีความเก่งกล้าในทางไสยเวทย์หรือไม่ นอกจากอักขระเลขยันต์ที่ได้รับการประสิทธิ์จากครูบาอาจารย์ ยังมีวิชาต่าง ๆ ที่ได้ร่ำเรียนจากสำนักเขาอ้อ ไม่ว่าจะเป็น เวทมนต์คาถา ปลุกเสกเลขยันต์ สักยันต์ เเช่ว่านลงยา กินเหนียวกินมัน ตามตำหรับสำนักเขาอ้อ” ทั้งยังมีพุทธาคมจากพระเครื่องอีกหลายองค์ ล้วนแต่ชั้นเลิศในวงการผู้นิยมเครื่องรางของขลัง และพระเครื่อง ซึ่งพระคู่กายที่ท่านขุนพันธ์ฯ อาราธนานำขึ้นคอติดตัวตลอดทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ นั้นมีอยู่ 5 องค์ คือ
.
1.พระปรุหนัง อยุธยา
.
พระองค์ใหญ่องค์ประธานกลางที่ห้อยอยู่ที่คอ ท่านขุนพันธ์ฯ ซึ่งเป็นพระเครื่องสมัยอยุธยาตอนต้น ที่จัดว่าเป็นพระฝีมือสกุลช่างชั้นครูแห่งอยุธยา ในวงการถือว่าเป็นศิลป์อยุธยาบริสุทธิ์ ที่งดงามและหาได้ยากยิ่ง พระเครื่องเนื้อชิน สร้างและออกแบบให้มีลักษณะ พระประธานปางมารวิชัย นั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว และมีอัครสาวกทั้งสองคือ พระโมคลานะ และพระสารีบุตร ยืนอยู่สองข้าง
พุทธคุณ ดีเลิศและยอดเยี่ยม ด้านมหาอุด และคงกระพันชาตรี อีกทั้งยังเด่นไปในทางปลอดภัย แคล้วคลาด จนเป็นที่กล่าวขานสืบต่อกันมาว่า นักเลงพระสมัยก่อนนิยมห้อยพระปรุหนัง อยุธยา และต่างยกย่องให้เป็น พระหลักที่มีพุทธาคมทรงคุณวิเศษอย่างยิ่ง
.
.
2.หลวงปู่ทวด วัดช้าวให้
.
“แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้ว ไม่ตายโหง”
คำกล่าวของ พระครูวิสัยโสภณ “ทิม ธัมมธโร” เจ้าอาวาสวัดช้างให้ โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
.
ขุนพันธ์ฯ ท่านห้อยพระหลวงปู่ทวดหลายองค์ หลายรุ่น ที่เด่น ๆ ก็ต้องเป็น พระหลวงปู่ทวด ปี 2497 เป็นหลัก และพระหลวงปู่ทวดฝังเม็ดพระธาตุ รุ่นแรกวัดคูหาภิมุข ที่ระลึก 100 ปีชาตกาล จัดสร้าง ณ วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) จ.ยะลา ปี พ.ศ. 2505 ถือว่าเป็นพระดีพิธีใหญ่ พิธีปลุกเสกครบสูตร โดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด พระอาจารน์ทิม วัดช้างให้ ปลุกเสกรวมกับพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว และพระเกจิสายเขาอ้อหลายท่าน ผสมมวลสารพระหลวงปู่ทวด ปี 2497 เข้มขลังมาก ด้านหลังฝังเม็ดพระธาตุ จากเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
พระหลวงปู่ทวด ถือว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณดีเด่นครบทุกด้าน ทั้งเมตตามหานิยม มหาโภคทรัพย์ เงินไหลมา มีโชคลาภ เรียกทรัพย์ และคุ้มครองคุ้มภัย แคล้วคลาด และป้องกันภูตผี สุดยอดแห่งนิรันตราย
ท่านขุนพันธ์ฯ เคยจัดสร้างและร่วมปลุกเสก พระหลวงปู่ทวด อาทิเช่น หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่น ทำบุญอายุ 100 ปี (ปลุกเสกโดยขุนพันธ์) และ หลวงปู่ทวด รุ่น มงคลจักรวาลเขาอ้อ (จัดสร้างโดยท่านขุนพันธ์)
.
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
FB : โทน บางแค FC
gotonakhon.com/
instagram.com/ t amulet
banpra-lakroy.99wat.com/
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
samakomphra.com/สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
FB : สมาคมนักสะสมพระกรุ พระเก่าและผู้ค้าวัตถุโบราณแห่งประเทศไทย
