หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล (พระราชวุฒาจารย์) วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ท่านเกิดเมื่อ วันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2430 ณ บ้านปราสาท ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) บิดาชื่อ แดง มารดาชื่อ เงิน นามสกุล ดีมาก และ *เกษมสินธุ์ โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ของพี่น้องทั้งหมด 5 คน
*ท่านได้เล่าให้ฟังถึงเหตุที่ท่านนามสกุลว่า “เกษมสินธุ์” นั้น เหตุเพราะเมื่อคราวที่ท่านไปพํานักประจําอยู่ที่ วัดสุทัศนาราม อุบลราชธานี เป็นเวลานานนั้น ได้มีหลานชายคนหนึ่ง ชื่อพร้อม ไปพักอยู่ด้วยท่านจึงตั้งนามสกุลให้ว่า “เกษมสินธุ์” และตั้งแต่นั้นมาท่านก็เลยใช้นามสกุลว่า “เกษมสินธุ์” ไปด้วย
ท่านขอบวชกับบิดามารดาอยู่นานจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2453 ท่านอายุได้ 22 ปี บิดาจึงได้รับการอนุญาตให้บวชได้และห้ามสึกต้องบวชจนได้เป็นเจ้าอาวาสเหมือนปู่ของท่าน หลวงปู่ดูลย์ ได้เข้าอุปสมบท ณ วัดจุมพลสุทธาวาส จ.สุรินทร์ โดยมี พระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัฌาย์ ได้รับฉายาว่า… อตุโล*
*ความหมายว่า “ชั่งไม่ได้, เทียบไม่ได้, ประมาณไม่ได้” คือ ไม่สามารถหาสิ่งใดมาเปรียบได้ ซึ่งหมายถึง “ไม่มีใดเทียบเทียม”
.
ท่านเป็นพระที่ใฝ่รู้พากเพียรในศึกษาและปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัด มีความวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพรรษาที่ 6 ท่านจึงได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี จนท่านสอบได้นักธรรมตรี เป็นรุ่นแรก และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ (มูลกัจจายน์) จนสามารถแปลพระธรรมบทได้ เนื่องจากวัดสุปัฏนาราม เป็นวัดที่อยู่ในสังกัดธรรมยุตินิกาย หลวงปู่ดุลย์จึงได้ขอญัตติเป็นธรรมยุตินิกาย ในพ.ศ. 2461 ณ วัดสุปัฏนาราม โดยมีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ และในพรรษาต่อมาท่านจึงมีโอกาสได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูมิทัตโต เมื่อได้ฟังธรรมเพียงครั้งเดียวจากพระอาจารย์มั่น ก็เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง จึงได้เลิกศึกษาพระปริยัติแล้วออกธุดงค์ตามพระอาจารย์มั่น ไปยังที่ต่าง ๆ หลายแห่ง
.
.
จึงนับได้ว่า หลวงปู่ดุลย์ เป็นศิษย์ของ พระอาจารย์มั่น ในสมัยแรก ท่านออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพรกับพระอาจารย์มั่น นานถึง 19 ปี ต่อมา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา ขอให้หลวงปู่กลับสุรินทร์ เพื่อบูรณะวัดบูรพาราม ในปี พ.ศ. 2477 ให้เป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์
.
หลวงปู่ดุลย์ มีสุขภาพอนามัยดีเยี่ยม แข็งแรง ว่องไว ผิวพรรณผ่องใส มีเมตตาเป็นอารมณ์ สงบเสงี่ยม เยือกเย็น ทั้งยังช่วยสงเคราะห์บุคคลทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ทำให้ผู้ใกล้ชิดและผู้ได้กราบไหว้ เกิดความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างสนิทใจ ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อพระศาสนาอย่างแท้จริง จนได้รับการยอมรับจากสาธุชนทั้งหลายว่าเป็น อริยสงฆ์ ที่หาได้ยากยิ่งองค์หนึ่ง ด้วยคุณความดีในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลวงปู่ดุลย์ ท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศ ขึ้นเป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวุฒาจารย์ ศาสนภารธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆราม คามวาสี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2522
หลวงปู่ดุลย์ ท่านมรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2526 เวลา 04.13 น. รวมสิริอายุได้ 96 ปี 26 วัน พรรษาที่ 74 ทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานพวงมาลา,น้ำหลวงสรงศพ,พระพิธีธรรม,โกศโถ ฉัตรเบญจา 5ชั้นตั้งประดับ,ปี่ไฉนกลองชนะประโคมเวลาน้ำหลวงสรงศพ และเวลาพระราชทานเพลิงศพ
.
.
.
*พระอรหันตธาตุของท่าน ยังเก็บรักษาไว้ให้สาธุชนได้สักการะที่ พิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐาน ในบริเวณวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
.
.
.
.
.
.
*คำสอนของหลวงปู่ดุลย์ ซึ่งเป็นคำสอนสั้นๆ และเฉียบคมล้ำลึกนั้น ท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนี ได้รวบรวมและพิมพ์ไว้ในหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้” ซึ่งนับเป็นหนังสือที่มีคุณค่าแก่นักปฏิบัติธรรมและผู้สนใจทั่วไป
.
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
archive.org/
uauction4.uamulet.com/
doisaengdham.org/
uauction4.uamulet.com/
thairath.co.th/ ไทยรัฐ
pra-kuang.blogspot.com/
FB : พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
FB : ศรัทธาพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
FB : เหรียญเก่ายอดนิยม
FB : วัดป่าคลองกุ้ง จันทรบุรี
FB : หลวงพ่อพระชีว์ วัดบูรพาราม พระอารามหลวง เฉลิมพระเกียรติ สุรินทร์
