
.
พระท่ากระดาน : ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง

พระท่ากระดาน พระกรุหนึ่งใน พระเบญจภาคีพระกรุ ฉายา “ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง” เป็นพระเครื่องที่สร้างในยุคสมัยอู่ทอง เหตุเพราะเด่นในด้านพุทธคุณยิ่งนัก เชื่อกันว่าเสกสร้างโดย ฤๅษีตาไฟ พระเครื่องแห่งเมืองท่ากระดาน เมืองศรีสวัสดิ์ และเมืองกาญจนบุรี เมืองหน้าด่านในอดีต พุทธาคมดีเลิศด้านมหาอุด คงกระพัน ชาตรี หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้าลูกปืนไม่ระคายผิว
ส่วน วัดท่ากระดาน ตั้งอยู่ใน ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันเป็นวัดร้าง มีซากปรักหักพังและพระเจดีย์เป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่บริเวณหน้าถ้ำทางตอนเหนือของเมืองท่ากระดานเก่าขึ้นไปตามลำน้ำ บริเวณวัดยังพบวัตถุโบราณที่พบเช่น บาตรขนาดเขื่อง เตาดินเก่าๆหลายเตา ที่สำคัญ คือ ปรากฏมีตะกั่วสนิมแดงตกอยู่เรี่ยราดบริเวณเตาและพบพระท่ากระดานทุกๆ พิมพ์อีกด้วย จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นแหล่งสร้างพระท่ากระดาน
เมืองท่ากระดาน มีวัดสำคัญ ๓ วัด คือ วัดเหนือ (วัดบน) วัดกลาง (ปัจจุบันชื่อ วัดท่ากระดาน) และวัดล่าง ในปี พ.ศ. 2495 ได้มีการขุดค้นหาโบราณวัตถุกันเป็นการใหญ่ และได้พบพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่วัดทั้งสามเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะที่วัดกลางซึ่งเรียกชื่อเต็มว่า “วัดท่ากระดาน” นั้นได้ปรากฏพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่สนิมแดงงามจัดและปิดทองมาแต่ในกรุทุกองค์ กอปรกับวัดนี้ตั้งอยู่ในส่วนกลางของเมืองท่ากระดานเก่าพอดี ชาวบ้านจึงเห็นเหมาะสมที่จะเรียกพระพิมพ์นี้ตามชื่อวัดว่า “พระท่ากระดาน”
คนสมัยก่อนจะพบเห็น พระท่ากระดาน นี้ได้จากคนท้องถิ่นศรีสวัสดิ์ โดยเฉพาะคนมอญบ้าง พม่าบ้าง ตั้งแต่ยังไม่มีการสร้างเขื่อนครีนครินทร์ สมัยนั้น พระท่ากระดาน ยังไม่มีผู้รู้จักไม่มีราคา เป็นเหมือนพระแก้บนอยู่ข้างโบสถ์ ใต้ต้นโพธิ์ ชาวบ้านเอามาแลกเหล้าขาวไปกิน แลกยาตั้งไปมวนกับใบตองสูบ
.
.
กรุที่พบ

.
พระท่ากระดาน ขุดพบครั้งแรกเมื่อประมาณ พ.ศ. 2460 ที่วัดท่ากระดานกลาง ในพื้นที่ตำบลท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดง ทรงปางมารวิชัย หน้าเคร่งขรึมน่าเกรงขาม แข้งเป็นสัน และมีหนวดแหลมยื่นออกมา คล้ายศิลปะสมัยลพบุรี
พระท่ากระดาน สันนิษฐานพระที่ถูกสร้างในสมัยอู่ทองคือประมาณปี พ.ศ.1800 ถึง พ.ศ. 2031 ครั้งแรกพบที่ กรุถ้ำลั่นทม เป็นครั้งแรก ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาพบที่วัดบน วัดกลาง วัดล่าง ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่ากระดาน อีกด้วย โดยเมื่อน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง ทำให้เกิดน้ำท่วมไปทั่วบริเวณ พอน้ำลดลงจึงเห็นพระเจดีย์ปลายนาสวน พังทลาย พบพระท่ากระดานจำนวนมาก เรียกกันว่า “กรุวัดต้นโพธิ์”

มีการแบ่งพระท่ากระดานออกเป็น “พระกรุเก่า” กับ “พระกรุใหม่” แต่ก็ถือว่าพระถูกสร้างขึ้นพร้อมกัน ต่างกันเพียงสถานที่พบและระยะเวลาการขุดพบเท่านั้นเอง
กรุเก่า – พ.ศ.2495 – 2497
“กรุเก่า” ก็คือพระที่ถูกค้นพบที่ถ้ำลั่นทมในปี พ.ศ. 2497 และที่ค้นพบในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์คือกรุบน, กรุกลาง, กรุล่างในปี พ.ศ. 2495 ถึงปี พ.ศ. 2496 และ กรุวัดหนองบัวปี พ.ศ. 2497
กรุใหม่ – พ.ศ.2506 – 2541
กรุที่ค้นพบที่ วัดเหนือ (เทวสังฆราม) พ.ศ. 2506, กรุสวนใน, กรุท่าเสา พ.ศ. 2507, กรุลาดหญ้า พ.ศ. 2537 และ และกรุในถ้ำในอำเภอทองผาภูมิ พ.ศ. 2541
.

ตำนาน
.
หากวิเคราะห์และมองตามหน้าประวัติศาสตร์ ดินแดนที่เป็น จ. กาญจนบุรี ในทุกวันนี้ เคยเป็นที่อยู่เดิมของชนหลายยุคหลายสมัย นับตั้งแต่ยุคสมัยหิน จนมาถึงยุคสมัยทวารวดี ลพบุรี อู่ทอง อยุธยา และมีพระกรุพระเครื่องจำนวนมาก ที่ขึ้นชื่อ ลือนาม สันนิษฐานจากหลักฐานที่ปรากฏบนใบลานเงินลานทอง ในการค้นพบพระเครื่องกรุ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี และพระเครื่องกรุวัดพระบรมธาตุ จ.กำแพงเพชร ที่ได้กล่าวถึงการสร้างพระเครื่องของบรรดาพระฤๅษีทั้ง 11 ตน และ มีฤๅษีอยู่ 3 ตน ที่ถือว่าเป็นใหญ่ในบรรดาฤๅษี ทั้งปวง คือ ฤๅษีตาไฟ ฤๅษีตาวัว และ ฤาษีพิราลัย
เล่ากันว่า…เหตุที่ริเริ่มสร้าง พระท่ากระดาน ราว 600 – 700 ปีก่อน โดยเจ้าเมืองท่ากระดาน (เมืองเก่าแก่ริมแม่น้ำแควใหญ่) กับชาวบ้านได้อัญเชิญ ฤๅษีตาไฟแห่งถ้ำลั่นทม เป็นผู้สร้างและปลุกเสกเครื่องรางของขลังเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการสู้รบกับข้าศึก ฤๅษีตาไฟ ท่านจึงได้สร้างพระเนื้อตะกั่วโดยเทลงในบล็อกดินเผา นำไปแจกให้แก่ทหารของเจ้าเมืองท่ากระดาน เพื่อใช้สู้รบกับอริราชศัตรู โดยเน้นมหาอุดฟันแทงไม่เข้า
.
*จากคำบอกเล่าของคนเมืองกาญจนบุรีรุ่นเก่า ที่เรียก พระท่ากระดาน ว่า “พระเกศบิดตาแดง”
.

.
**โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
ladya.go.th/
Silpa-mag.com/
hairemark.com/
komchadluek.net
samakomphra.com/
komchadluek.net/ คมชัดลึก
FB : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง
FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี(PRD
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
prathaprachan-mag.com / นิตยสารพระท่าพระจันทร์
samakomphra.com/สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย