
วรรณะพระสมเด็จฯ 12 ลักษณะ
.
พระสมเด็จฯ 12 วรรณะ ตามทฤษฎี “รงคทฤษฎี” ตามที่ตรียัมปวายได้อธิบายไว้ในหนังสือ “ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่องฯ เล่มที่ 3 พระรอด” พิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยบอกด้วยว่า วรรณะของเนื้อพระสมเด็จฯนั้นจะอ่อนจางกว่าวรรณะที่ใช้นามเดียวกันของเนื้อพระดินเผาเป็นอันมาก โดยจะขออนุญาตสรุปความโดยสังเขป และขอนำเสนอเพื่อให้เป็นประโยชน์ในทางการศึกษาดังต่อไปนี้
7.วรรณะสีขี้เถ้า
วรรณสีขี้เถ้า – มีวรรณะคล้ายสีน้ำข้าว แต่ไม่ขุ่นข้น หรือคล้ายสีขี้เถ้าแต่อ่อนซีดกว่ามาก บางทีมีวรรณะสีก้านมะลิแทรกอยู่ด้วย เมื่อพลิกเข้ากับแสงสว่างจะเลื่อมพรายเล็กน้อย เป็นวรรณะของเนื้อพระที่ไม่แกร่งหนึกนุ่มจนเกินไป มีผิวฟู เมื่อผ่านการล้างอย่างแรง จะกลายเป็นวรรณะขาวนวลเช่นกัน พบในเนื้อพระของวัดบางขุนพรหม (วรรณะประเภทนี้พระน่าจะผ่านการใช้ไม่มากนักหรือไม่ผ่านการใช้เลย)

8.วรรณะสีลาน
วรรณสีลาน – มีวรรณะขาวอมเหลืองหม่นอ่อนๆแก่กว่าวรรรณะสีงาช้างเล็กน้อย คล้ายสีใบลานแต่อ่อนซีดกว่า พบทั้งในเนื้อประเภทหนึกนุ่มบางประเภทเช่น เนื้อผงเกสรดอกไม้ เนื้อปูนนุ่ม และเนื้อหนึกแกร่งบางประเภท เช่น เนื้อปูนแกร่ง ที่ผิวไม่แกร่งและหนาจนเกินไปนัก และส่วนมากเป็นเนื้อที่ผ่านการใช้มาบ้างแล้ว พบทั้งของวัดระฆังฯและบางขุนพรหม
9.วรรณะสีมะกอกสุก
วรรณสีมะกอกสุก – เป็นวรรณะที่ค่อนข้างคล้ำเล็กน้อย เกิดจากมวลสารประเภทอิทธิวัสดุ (เช่นผงวิเศษต่างๆ) เป็นวรรณะของเนื้อที่มีความซึ้งจัด เช่น เนื้อผงเกสรดอกไม้ เนื้อกระแจะจันทน์ เนื้อขนมตุ้บตั้บ และเนื้อกระยาสารท ถ้าเป็นเนื้อหนึกนุ่มมักจะมีแป้งโรยพิมพ์บางๆวรรณะขาวนวลจับอยู่เสมอ (น่าจะไม่ถูกสัมผัสมามากนัก) ส่วนมากพบในเนื้อของวัดระฆังฯ ของวัดบางขุนพรหมมีเป็นส่วนน้อย
10.วรรณะสีเมล็ดพิกุล
วรรณสีเม็ดพิกุล – เป็นวรรณะที่หม่นคล้ำกว่าวรรณะสีมะกอกสุกเล็กน้อย เนื่องจากแก่มวลสารอิทธิวัสดุมากกว่า เป็นวรรณะของเนื้อที่มีความซึ้งจัด เช่น เนื้อกระแจะจันทร์ เนื้อขนมตุ้บตั้บ และเนื้อกระยาสารท มีผิวแป้งโรยพิมพ์ค่อนข้างหนาเล็กน้อย (น่าจะเกิดจากการที่ไม่ถูกสัมผัสมามากนักเช่นกัน) เป็นของวัดระฆังฯเป็นส่วนใหญ่ ของบางขุนพรหมมีน้อย

11.วรรณะสีช็อกโกแลตอ่อน
วรรณสีช็อกโกแลตอ่อน – เป็นวรรณะที่หม่นคล้ำ คล้ายสีช็อกโกแลตผสมน้ำนม แต่อ่อนกว่ามาก เป็นลักษณะของมวลสารอิทธิวัสดุ โดยมากจะไม่เป็นวรรณะนี้ทั้งองค์แต่ปรากฏเป็นหย่อมๆ แล้วแต่ว่ามากหรือน้อย เนื้อมักจะค่อนข้างแกร่ง มีผิวค่อนข้างหนา ตรียัมปวายบอกว่าจะแก่ทั้งผงวิเศษและปริมาณปูนขาว มวลสารอื่นๆคงใช้ผสมน้อยมาก (เม็ดมวลสารที่โดยทั่วไปพบในพระสมเด็จฯ เช่นเม็ดขาว เม็ดดำ เม็ดเทา ก้านธูป ฯลฯ มักจะไม่พบในพระวรรณะนี้) เป็นวรรณะของเนื้อกระแจะจันทร์ที่ซึ้งจัด และเนื้อกระยาสารท พบทั้งของวัดระฆังฯและวัดบางขุนพรหม แต่พบน้อยมาก
12.วรรณะสีพิกุลแห้ง
วรรณสีพิกุลแห้ง – เป็นวรรณะที่ค่อนมาทางน้ำตาลอ่อน เจือด้วยวรรณะมอนวล เป็นวรรณะที่หม่นคล้ำจัดที่สุด ส่วนมากเป็นเนื้อกระยาสารท ถ้าเป็นของวัดระฆังฯจะมีผิวแป้งโรยพิมพ์นวลเป็นฝ้าบางๆจับอยู่ภายนอก เนื้อไม่แกร่งนัก แต่ถ้าเป็นของวัดบางขุนพรหม วรรณะนี้จะเป็นวรรณะของคราบกรุ มีผิวค่อนข้างแกร่ง ไม่หนานัก และมีเมล็ดแร่ประปรายที่ผิวเนื้อ
.

บทส่งท้าย
การทำความเข้าใจเรื่องวรรณะของพระสมเด็จฯ เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถนำมาเป็นเครื่องชี้วัดพระสมเด็จฯแท้ได้ แต่เป็นเหมือนตัวช่วยที่ทำให้เข้าใจถึงเรื่องเนื้อหามวลสารรวมถึงธรรมชาติความเก่าได้ดีขึ้น โดยต้องนำไปพิจารณาประกอบกับองค์ความรู้อื่นๆเพี่อเข้าใจในองค์รวมของพระแท้ ถ้าพูดในแง่ของการพิสูจน์หลักฐานก็ต้องบอกว่า การศึกษาเรื่องวรรณะของพระสมเด็จฯนั้น “มีคุณค่าในการพิสูจน์” อยู่ในระดับหนึ่ง อาจไม่ถึงขนาดที่จะกำหนดเป็นลักษณะเฉพาะตัวของพระสมเด็จฯหรือที่เรียกว่าเป็น “อัตลักษณ์” (ลักษณะไม่ซ้ำกับพระประเภทอื่น) ได้ แต่ก็เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ศึกษาเรื่องพระสมเด็จฯเพื่อที่จะเข้าถึงพระแท้ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต
.
.
.

ดัดแปลงจากบทความของ พ.ต.ต. คมสัน สนองพงษ์ (อดีตตำรวจพิสูจน์หลักฐาน)
เพจเฟสบุ๊ค – พระสมเด็จศาสตร์
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
uauction4.uamulet.com/
thairath.co.th/
FB : ห้องสมุดพระสมเด็จวัดระฆัง
FB : ศึกษาพระสมเด็จ ยุค4G ต้องมองเห็นด้วยตา
Fb : พระสมเด็จศาสตร์ Phrasomdejsart Research Center