ตำนาน วัดใหม่อมตรส
.
วัดใหม่อมตรส [ไหฺม่-อะ-มะ-ตะ-รด] เดิมทีเป็นวัดเดียวกันกับ วัดอินทรวิหาร เหตุที่ต้องแยกเป็นสองวัดก็เนื่องมาจาก ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดให้สร้างและขยายโดยถนนตัดผ่านกลาง “วัดบางขุนพรหม” หรือ “วัดไร่พริก” ที่ตั้งอยู่ย่านบางขุนพรหม เนื่องจากอยู่ภายในเขตวังเทวะเวสม์ที่พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใหม่ (จึงเรียกชื่อว่า “วัดบางขุนพรหมใน”) ซึ่งก็คือ ฝั่งที่มีหลวงพ่อโต ปางอุ้มบาตร สูง 32 เมตร และบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สมเด็จโตได้สร้างไว้ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดอินทรวิหาร
.
ส่วนอีกฝั่งซึ่งมีเจดีย์ใหญ่ที่บรรจุพระกรุสมเด็จบางขุนพรหม ตั้งชื่อว่า วัดบางขุนพรหมนอก (วัดใหม่อมตรส) ได้ทำการก่อสร้างปฎิสังขรณ์วัดใหม่ เริ่มดำเนินการโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) โดยใช้ชื่อว่า วัดใหม่อมตรส ในปี พ.ศ. 2460 และได้ทำการผูกพันธสีมาใหม่ ระหว่างวันที่ 4–10 มกราคม พ.ศ. 2509
.
ตำนาน สมเด็จบางขุนพรหม
“พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม” พระเครื่องดังหนึ่งในเบญจภาคี เหตุแห่งการสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุวัดใหม่อมตรส มีที่มาดังนี้ ในปลายสมัยรัชการที่ 4 เสมียนตราด้วง ผู้เป็นต้นสกุลของ ” ธนโกเศศ ” ได้มาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2411 และได้สร้างพระสมเด็จบางขุนพรหม ลงกรุไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2413 ด้วยจำนวนถึง 84,000 องค์ (ในวงการพระเครื่องคาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะสร้างได้ประมาณหมื่นกว่าองค์) โดยท่านได้ขออนุญาต สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในการจัดสร้าง
ซึ่งสมเด็จโตฯ ท่านได้แนะนำว่าควรสร้างเป็นพระผง อย่างที่ท่านสร้างพระสมเด็จ ที่เป็นที่นิยม โดยรับเป็นประธานในการจัดสร้าง โดยได้ใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับ พระสมเด็จ วัดระฆัง และใช้มวลสารเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยผงวิเศษทั้ง 5 คือ ปถมัง อิธะเจ มหาราช พุทธคุณ ตรีนิสิงเห และนอกจากนั้น ปูน ข้าวสุก กล้วย เกษรดอกไม้ งา น้ำมัน ก็ได้รวมอยู่ในพระทุกองค์ และสมเด็จโตฯ ท่านยังเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยตัวท่านเอง โดยพุทธคุณ นั้นเน้นหนักไปทาง ด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาด
.
.
รูปแบบพระ พุทธลักษณะ
.
เป็นพระผง ปางสมาธินั่งประทับบนฐานสามชั้นภายในเส้นซุ้มครอบแก้ว ลักษณะโดยรวมเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 2.2 ซม X 3.5 ซม. จำแนกพิมพ์ พระสมเด็จบางขุนพรหม มีพิมพ์ที่นิยมในวงการพระเครื่อง มีทั้งหมด 12 พิมพ์ ประกอบด้วย พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ทรงเจดีย์, พิมพ์เส้นด้าย, พิมพ์เกศบัวตูม, พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ฐานคู่, พิมพ์สังฆาฏิหูช้าง, พิมพ์สังฆาฏิไม่มีหู, พิมพ์อกครุฑ, พิมพ์อกโผล่, พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ไสยาสน์
.
**พระสมเด็จบางขุนพรหม สร้างแล้วเสร็จประมาณปี พ.ศ. 2413 ก่อนที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านจะมรณภาพ 2 ปี
.
เหตุแห่งการเปิดกรุ
เล่าขานต่อกันมาว่า ในปี พ.ศ. 2413 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านได้นําพระบรรจุไว้ในกรุวัดบางขุนพรหม มีครั้งนั้นมีการจัดงานฉลองใหญ่โต จนเมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2457-2461) ประชาชนต้องการวัตถุมงคลไว้ติดตัวเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเพื่อป้องกันภัยจากสงคราม ครั้งนั้นก็เกิดมีข่าวลือกันว่า พระเจดีย์ที่วัดบางขุนพรหม มีโพรงอากาศขนาดเท่าข้อมือ ถ้าใช้ไฟส่องลงไปเห็นด้านล่างมีพระวางอยู่เต็ม ซึ่งเป็นพระที่สมเด็จโต ท่านได้บรรจุเอาไว้ ชาวบ้านจึงนําดินเหนียวมาผูกปลายเชือกคล้ายเบ็ดตกปลา หย่อนลงไปในโพรงอากาศนั้น เพื่อตกพระขึ้นมา (พระที่ได้นิยมเรียกว่า พระสมเด็จ “รุ่นตกเบ็ด”)
.
เมื่อมีคนรู้มากขึ้น ก็เกิดการซื้อขายชุมนุมกันมาก ทางวัดปิดช่องนั้นแล้วก็ยังมีคนแบบเข้ามาขโมยพระ เพราะมีผู้ให้ราคางาม เกิดการแย่งชิงกันชุลมุนวุ่นวาย
จน พ.ศ. 2500 ทางวัดเกรงพระเจดีย์จะพังลงมา จึงได้ตัดสินใจเปิดกรุ โดยได้ประชุมกันเชิญ จอมพล ประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะนั้นมาเป็นประธาน พระที่เปิดกรุได้ มีประมาณ 3,000 องค์ และพระทุกองค์ ทางวัดจะใช้ตรายางขอวัดประทับตราที่ด้านหลัง พระกรุนี้มีคราบกรุจับหนา บางทีย่นเป็นหนังกระเบน บางองค์กอดกันเป็นก้อน ต้องค่อยๆ กะเทาะออก เพื่อเป็นการสะดวกกรรมการวัดจึงเปิดให้เช่าบูชา โดยใส่ถุงไม่ระบุว่าเป็นพิมพ์อะไร คล้างกล้องสุ่มที่นิยมกันอย่างทุกวันนี้ ผู้บูชาจะได้พระพิมพ์ใด สภาพใด ก็แล้วแต่บุญวาสนา ส่วนใครอยากได้พระที่มีสภาพสมบูรณ์ ทางวัดก็มีให้เช่าบูชาองค์ละ 1,000 ซึ่งเวลานั้น ทองคำราคาบาทละ 300-400 บาท
ส่วนพระที่หักชำรุดทางวัดนำมาต่อกันหลายพิมพ์ จนสมบูรณ์ ซึ่งสมัยนั้นมี “แฉล้ม บัวเปลี่ยนสี” เป็นนักต่อพระฝีมือดี เมื่อต่อเสร็จสมบูรณ์ ก็นำออกไปให้เช่าองค์ละ 500 บาท
.
.
“หลวงปู่ลำภู” ได้เป็นกรรมการในการเปิดกรุ ซึ่งในขณะนั้นท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส
ส่วนพระที่หักหรือชำรุดจึงเก็บรักษาไว้ที่กุฏิหลวงปู่ลำภู พอผู้คนและบรรดาลูกศิษย์ทราบก็มาขอท่านอยู่บ่อยๆ
จนท่านได้ตัดสินใจ นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่หักมาบดจนละเอียด
แล้วนำมาผสมผงมวลสารวิเศษต่างๆ และสมเด็จวัดระฆังฯ นำมาผสมสร้างเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
amuletpura.com
chula.ac.th/
silpa-mag.com/
acicertified.com/
osaoldbook2.tarad.com/
Youtube : หนุ่มแท่ง อารามทัวร์
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
prathaprachan-mag.com / นิตยสารพระท่าพระจันทร์
samakomphra.com/สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
