ตำนานหลวงปู่ทวด

แชร์บทความ

หลวงปู่ทวดกับลูกแก้วคู่บารมี

.

.

หากเห็นภาพ วัตถุมงคล หรือ รูปหล่อลอยองค์ หลวงปู่ทวด ในบางครั้งจะมี “ลูกแก้ว” วางอยู่กับองค์ท่าน หรืออาจมีทั้ง “ลูกแก้ว” และมี “งูใหญ่” อยู่ที่ฐานกลีบบัวรองรับองค์หลวงปู่ทวดเสมอ (โดยมากจะเป็นวัตถุมงคลจาก วัดพะโคะ สงขลา และใช้เป็นพิมพ์ต้นแบบในวัดอื่นๆ ต่อๆ มา)

.

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กแรกเกิด ท่านมีนามว่า “ปู” เป็นบุตรของ นายหู และ นางจัน ชาวบ้านวัดเลียบ ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ในวัยแบเบาะบิดามารดา ได้นำท่านไปที่ทุ่งนาของเศรษฐีปาน ด้วยเพื่อเกี่ยวข้าว โดยผูกเปลให้ท่านนอนที่ระหว่าง ต้นตาลและต้นเม่า แล้วก็ออกไปเกี่ยวข้าวซึ่งไม่ไกลนัก เมื่อได้เวลานางจันก็เดินกลับมาที่ผูกเปลไว้

.

.

เพื่อให้นมแก่บุตรชาย แล้วนางจันก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อมีพญางูใหญ่ (งูบองหลา-จงอาง) ขดพันตัวรอบๆ เปลของเด็กชายปูอยู่ นางจันทร์ จึงได้เรียก นายหู ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักให้รีบมาช่วยไล่งูใหญ่นั้น แต่งูจงอางกลับไม่ได้เกรงกลัว สุดวิสัยจะทำอะไรได้ นายหู และ นางจันทร์ จึงได้ตั้งสัตยาธิฐานว่า ขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย

ไม่นานนักพญางูก็ได้คลายวงรัดออก และเลื้อยหายไปในป่า นายหูและนางจันทร์ จึงรับเข้าไปดูลูกน้อย เห็นว่ายังหลับอยู่ และไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ที่วางนิ่งอยู่บนหน้าอกลูก กลับเป็นเมือกแก้วขนาดใหญ่ ที่งูจงอางคลายไว้ให้ เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาว และต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว

.

.

.

*สถานที่หลวงปู่ทวด ได้พบพญางูและได้รับลูกแก้ว

ปัจจุบันคือ สำนักสงฆ์นาเปล ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา

.

.

.

ในสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเกิดโรคระบาด หลวงปู่ทวดท่านได้นำ ลูกแก้ววิเศษคู่บารมีนี้มาตั้งจิตอธิฐานทำน้ำพุทธมนต์ประพรมและแจกจ่ายให้ชาวบ้านนำไปดื่ม-อาบ จนโรคระบาดสงบลง เมื่อท่านมาบูรณะและจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ ท่านจึงนำ “ลูกแก้ว” ขึ้นดไปประดิษฐานไว้บนยอด พระเจดีย์ “สุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ”

ในกาลต่อมา “ลูกแก้ว” ได้หล่นลงมาและแตกร้าวบางส่วน ทางวัดพะโคะจึงนำมาเก็บรักษาและให้ผู้คนกราบไหว้ระลึกถึงท่านจนถึงปัจจุบัน 

.

.

.

ปาฏิหาริย์เหยียบน้ำทะเลจืด


เล่ากันว่า… วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเดินอยู่ ซึ่งท่านมีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลาย จึงใคร่จะลองดี โจรสลัดได้จอดเรือและจับสมเด็จพะโคะขึ้นเรือไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่ ก็เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวันจนในที่สุดน้ำจืดหมดลง โจรสลัดเดือดร้อนกันไปทั่ว

สมเด็จพะโคะสงสารจึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเล เกิดเป็นประกายโชติช่วง และน้ำทะเลได้กลายเป็นน้ำจืด ทำให้พวกโจรได้ดื่มกินดับกระหาย เป็นที่อัศจรรย์ใจ โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาเมื่อเรื่องราวแพร่สะพัด ประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก

.

.

.

.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…

.

Google

Th.wikipedia.org

komchadluek.net/

FB หลวงปู่ทวด

baanjompra.com/

travel.trueid.net/

museumthailand.com/

clib.psu.ac.th/ ฐานข้อมูลภาคใต้

clib.psu.ac.th/ ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้  

FB สำนักสงฆ์นาผูกเปล ที่พญางูคายลูกแก้ว 

FB วัดพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด 

prathaprachan-mag.com/ พระท่าพระจันทร์

thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม

naamchoop.com/ สะพานแห่งองค์ความรู้ เปิดประตูเสน่ห์ถิ่นใต้ 

ติดต่อลงประกาศข้อมูลพระเครื่อง

บทความเพิ่มเติม

“ศาสตร์แห่งพระสมเด็จ”

. กำเนิดพระสมเด็จวัดระฆังฯ . . คำศัพท์ที่ให้จำแนกพระเนื้อดิน ตำรับ “ตรียัมปวาย” “ปริแยก แตกย่น หนอนด

“ตรียัมปวาย” – “พระเบญจภาคี”

“ตรียัมปวาย” อาจารย์ใหญ่แห่งวงการพระเครื่อง . . “ตรียัมปวาย” เป็นนามปากกาของปรมาจารย์ด้านพระเครื่องผ

พระร่วงหลังรางปืน สรรวคโลก

พระเครื่องชุดเบญจภาคี . พระเครื่องชุดเบญจภาคี แต่ละชุดนั้นเริ่มเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2497 ปรมาจารย์ ตรี