พระอาจารย์ทิม ผู้สร้างพระ หลวงปู่ทวด อันโด่งดัง
พระอาจารย์ทิม (พระครูวิสัยโสภณ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี นามเดิมชื่อ ทิม พรหมประดู่ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2455 บ้านนาประดู่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี บิดาชื่อ นายอินทอง มารดาชื่อ นางนุ่ม อาชีพทำนา ท่านมีพี่น้อง 6 คน เมื่อท่านอายุได้ 9 ขวบ บิดามารดาได้ฝากให้อยู่กับ พระอาจารย์แดง ธมฺมโชโต (พระครูภัทรกรณ์โกวิท) เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ท่านได้เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดนาประดู่
ครั้งเมื่ออายุได้ 18 ปี ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร และก็ได้สึกออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา เมื่ออายุได้ 20 ปี ท่านจึงได้บวชพระที่วัดนาประดู่ ได้รับฉายา ธัมมธโร โดยท่านพรรษาได้เพียง 2 พรรษา ก็ได้ย้ายไปอยู่ วัดมุจลินทวาปีวิหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม พระอาจารย์ทิมเป็นผู้ใฝ่ในเรียน จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่วัดนาประดู่
.
.
ถึงปี พ.ศ. 2484 จึงได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาส วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างมีสภาพทรุดโทรม ท่านจึงได้ริเริ่มซ่อมแซมและตกแต่งสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดให้เป็นที่น่าเคารพบูชา และต้องการสร้างอุโบสถไว้ทำกิจกรรมของสงฆ์ พระอาจารย์ทิม ท่านจึงได้จัดสร้างพระเครื่อง หลวงพ่อทวด ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2497 โดยมีนายอนันต์ คณานุรักษ์ ร่วมจัดสร้างด้วยเพื่อหาทุนสร้างอุโบสถ และมีการจัดสร้าง หลวงพ่อทวด ขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2505 ส่งผลให้ วัดช้างให้ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการพัฒนาให้เจริญขึ้นเรื่อยมา
พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร ท่านอาพาธด้วยโรคมะเร็งที่หลอดอาหารมากตั้งแต่ พ.ศ. 2510 และได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2512
.
.
.
.
.
ประวัติ วัดช้างไห้
วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม เดิมชื่อ วัดช้างให้ ตั้งอยู่ที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อถึงปี พ.ศ. 1300 กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรศรีวิชัย แห่งปาเล็มบัง มีอานุภาพมากจึงได้แผ่อาณาเขตเข้ามาถึงแหลมมลายู และได้ก่อสร้างปูชนียสถานทานพุทธศาสนาเอาไว้หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นก็คือ วัดช้างให้ ซึ่งในกาลต่อมา วัดช้างให้ ได้กลายเป็นวัดร้าง จนถึงปี พ.ศ. 2484 พระอาจารย์ทิมได้มาบูรณะขึ้นอีกครั้ง
ในส่วนของประวัติวัด ตามหนังสือตำนานเมืองปัตตานีซึ่ง พระศรีบุรีรัฐพิพิธ (สิทธิ์ ณ สงขลา) ได้รวบรวมไว้ว่า… สมัยนั้นพระยาแก้มดำ เจ้าเมืองไทรบุรี ปรารถนาจะหาที่ชัยภูมิที่ดีสร้างเมืองให้ เจ๊ะสิตี ผู้เป็นน้องสาวครอบครอง เมื่อโหรหาฤกษ์ยามได้เวลาท่านเจ้าเมือง ก็เสี่ยงสัตย์อธิษฐานปล่อยช้างตัวสำคัญคู่บ้านคู่เมืองออกเดินป่าหรือเรียกว่า ช้างอุปการ เพื่อหาชัยภูมิดีสร้างเมืองเจ้าเมือง ก็ยกพลบริวารเดินตามหลังช้างนั้นไปเป็นเวลาหลายวัน
วันหนึ่งช้างได้เดินหยุดอยู่ ณ ที่ป่าแห่งหนึ่ง (บริเวณวัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม) แล้วเดินวนเวียนร้องขึ้น ๓ ครั้ง พระยาแก้มดำ ถือเป็นนิมิตที่ดีที่จะสร้างเมือง ณ ที่ตรงนี้ แต่เมื่อน้องสาวตรวจดูแล้วก็ไม่พอใจ ฯลฯ
*ตำนานเล่าว่า พระยาแกมดำ ได้สร้างเมืองปะตานี (ปัตตานี) มอบให้แก่ เจ๊ะสิตี ผู้เป็นน้องสาว
ฯลฯ ในขณะพระยาแก้มดำ เดินทางกลับมาถึงบริเวณที่ เสี่ยงช้าง ในครั้งแรกก็รู้สึกเสียดายสถานที่นี้ จึงตกลงใจสร้างวัดขึ้นให้ชื่อว่า “วัดช้างให้” และได้กราบนิมนต์ สมเด็จเจ้าพะโคะ (หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) หรือที่ชาวไทรบุรีเรียกว่า “ท่านลังกา” ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่เมืองไทรบุรี มาเป็นเจ้าอาวาส
เมื่อสมเด็จเจ้าพะโคะ (หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) มาเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ท่านก็ไป ๆ มา ๆ ระหว่างวัดช้างให้กับเมืองไทรบุรี แต่ท่านก็ได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ไว้ว่า… “ถ้าท่านมรณภาพลงเมื่อใด ก็ให้นำสรีระของท่านกลับมาฌาปนกิจที่วัดช้างให้” ต่อมาเมื่อสมเด็จเจ้าพะโคะ (หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) มรณภาพลูกศิษย์ก็ได้นำสรีระของท่านกลับมาที่วัดช้างให้เพื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว ก็ฝังอัฐิของท่านไว้ที่วัดช้างให้ อีกส่วนหนึ่งนำกลับไปฝังไว้ที่เมืองไทรบุรี (รัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซีย) หลังจากนั้นวัดช้างให้ ก็ค่อยๆ เงียบเหงาและกลายเป็นวัดร้างหลังจากหลวงพ่อทวดมรณะภาพไปแล้ว
.
- พ.ศ. 2488 ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารญี่ปุ่นยกพลบท ที่ จ.ปัตนี เพื่อให้เมืองไทยเป็นทางผ่านไป ประเทศมาเลเซีย และ ประเทศสิงคโปร์ โดยลำเลียงทหารและสัมภาระ ทางรถไฟสายใต้ จากหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก รถไฟต้องวิ่งผ่านหน้าวัดช้างให้ วันละหลายๆ เที่ยว ทำให้ประชาชนและผู้สัญจรผ่านต่างหวาดกลัวสงคราม วัดช้างให้ ซึ่งตั้งติดอยู่กับทางรถไฟ พระอาจารย์ทิม ในฐานะเจ้าอาวาสวัด ผู้มีเมตตา ท่านได้จัดหาที่พัก และอาหารไว้คอยเลี้ยงดูผู้คนที่มาขอพักอาศัยค้างแรมในระหว่างเดินทาง แม้จะเป็นภาระที่หนักอึ้ง แต่พระอาจารย์ทิมก็นับเป็นผู้ทรงคุณธรรมที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไม่ทอดทิ้งผู้ตกทุกข์ได้ยาก
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
pinterest.com/
1672travelbuddy.com/
komchadluek.net/
FB หลวงปู่ทวด
clib.psu.ac.th/ ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้
prathaprachan-mag.com/ พระท่าพระจันทร์
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
