9 เครื่องรางมงคล สุดยอดพุทธาคมแห่งยุค
9 เครื่องรางที่ได้รับความนิยมจากนักสะสม ต่างหามาครอบครองเพราะศรัทธาในพุทธาคมขลังของเหล่าพระอาจารย์เกจิผู้โด่งดังมาแต่โบราณ จนมีนักเลงพระยุคเก่าก่อนได้แต่งคำกลองยกย่อง 9 เครื่องรางของขลังทรงคุณค่าที่ควรมีไว้คู่กายว่า…
“หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง
ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ
พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง
ราหู คู่วัดศีรษะ(ทอง) เเหวนอักขระ วัดหนองบัว
ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา
ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาเเผ้วพาน”
มาทำความรู้จักกับ 9 เครื่องรางวัตถุมงคลเหล่านี้ ที่ได้กลายเป็นสุดยอดเครื่องรางที่นักสะสมปรารถนาจะได้มาครอบครอง ด้วยความเชื่อในพุทธคุณ วิทยาคม และเชื่อว่ามีอำนาจอันเข้มขลังพลังฤทธิ์ หากใครมีวาสนได้มาครอบครองแม้สัก 1 ชิ้นก็นับได้ว่าดีแล้ว ยิ่งใครมีครบทั้ง 9 ก็ถือว่าเป็นมหามงคล บารมีล้นเหลือจริงๆ
เครื่องรางดี พิธีขลัง พระอาจารย์ดัง อีกทั้งวัตถุที่ใช้จัดสร้างก็นับว่าหาได้ยากยิ่ง ทั้งแร่ ทั้งทนสิทธิ์ กะลาตาเดียว นับว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์โดยธรรมชาติ
.
.
.
1.หมากดี ที่วัดหนัง (หลวงปู่เอี่ยม)
.
หลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร
.
หลวงปู่เอี่ยม (พระภาวนาโกศลเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนังราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระอาจารย์ที่พระพุทธเจ้าหลวง (ร.5) ทรงให้ความนับถืออย่างยิ่ง เดิมทีท่านเป็นพระอธิการธรรมดา ๆ ทว่าท่านมีอภินิหารในการสร้างพระ เครื่องรางเป็นอย่างมาก จนเลื่องลือไปถึงพระบรมมหาราชวัง
.
หมากทุย : ต้นหมากตายพราย
.
หมากที่นำมาใช้ในพิธีปลุกเสกนั้น ต้องเป็นหมากจากต้นหมากที่ตายพราย คือ ต้นไม้ที่ยืนต้นตาย ทั้งที่ผืนดินตรงนั้นก็สมบูรณ์ดี ไม่มีวี่แววของโรคภัย ซึ่งชิ้นส่วนไม้ตายพรายนี้ ถือว่าเข้าตำรา เหมาะกับที่จะนำมาสร้างเครื่องรางของขลังได้
หมากทุย ใช้ลูกหมากอ่อน ขนาดพอเหมาะ การขึ้นไปเก็บจะต้องขึ้นโดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และว่าพระคาถากำกับทุกครั้ง เมื่อจะเก็บหมากเม็ดใด จะต้องจ้องไปที่หมากเม็ดนั้นพร้อมบริกรรมพระคาถา แล้วจึงเอาปากคาบเก็บลูกหมาก เมื่อนำได้มาแล้วต้องทำการเปิดจุกออก แล้วคว้านเนื้อในให้เกลี้ยง จากนั้นจึงบรรจุ เม็ดพระธาตุ
เสร็จแล้วจึงลงอักขระเลขยันต์ “นะปถมัง” พร้อมด้วย หัวใจพระรัตนตรัย “มะ อะ อุ” พระนามย่อพระเจ้าห้าพระองค์ “นะ โม พุท ธา ยะ” และหัวใจมหาอุต “อุดทัง อัดโธ” เขียนลงในกระดาษสาโบราณบรรจุลงในลูกหมาก แล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดินปิดทับให้แน่น ทำพิธีปลุกเสก ต้องบริกรรมจนลูกหมากลุกขึ้นตั้ง จึงจะถือสัมฤทธิ์ผล จากนั้นจึงนำไปถักเชือกหุ้ม ทำห่วงด้านบน แล้วนำไปลงรักเคลือบผิว ใช้สำหรับแขวนคล้องคอ
หมากทุย นับเป็นเครื่องรางที่ทรงอานุภาพ ช่วยป้องกันภัย เด่นด้านมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด ป้องกันคุณไสย์ และป้องกันภูตผีปีศาจ คาถาที่ใช้ร่วมกับหมากทุย คือ พระคาถา พระเจ้า 5 พระองค์ ให้หมั่นบริกรรม “นะ โม พุท ธา ยะ” ให้จิตเป็นตบะ เป็นสมาธิอยู่เสมอ
.
.
2.เบี้ยขลัง วัดนายโรง (หลวงปู่รอด)
.
หลวงปู่รอด วัดนายโรง
.
หลวงปู่รอด เกจิอาจารย์ผู้เป็นที่ความเคารพศรัทธาของชาวบ้าน ท่านมีลูกศิษย์ลูกมากมาย หลวงปู่รอด ท่านได้ศึกษาวิชาการสร้างวัตถุมงคล ตะกรุด เบื้ยแก้ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด จากหลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก วัดนายโรง ต.บางบำหรุ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นั่นเอง
.
ราชาแห่งเบี้ยแก้
.
ตัวเบี้ย ที่จะนำมาใช้ได้ตามตำรานั้น ท่านให้หงายท้องเบี้ยดู จะมาร่องปาก ในปากจะมีฟันซี่เล็ก ๆ เรียงกันอยู่ เบี้ยต้องมีฟันข้างละ 16 รวมได้ 32 ซี่ จึงจะผ่านการคัดถือว่ามีอาการครบ 32 และ หลังเบี้ยจะต้องมีเส้นนะปัดตลอดวิ่งตัดผ่าน จากหัวถึงท้ายอีกด้วย เมื่อได้เบี้ยต้องตามตำราแล้ว จึงนำเอาปรอทหนัก 1 บาท ซึ่งเป็นโลหะเหลวสีขาวแวววาวนำมาเข้าพิธี
โดยหลวงปู่รอดท่านจะใช้เวลาช่วงค่ำทำพิธีปลุกเสก ลงอาคมที่ตัวปรอท จนกระทั่งเคลื่อนไหวไปมาได้ แล้วจึงเรียกปรอทให้ไหลไปบรรจุในตัวเบี้ย จากนั้นจึงนำชันโรงใต้ดิน ที่เตรียมไว้เฉพาะมาอุดที่ปากเบี้ย จากนั้นจึงหุ้มด้วยตะกั่วตีเป็นแผ่นเรียบ จารอักขระยันตรา พระเจ้า 16 พระองค์ ยันต์ตรีนิสิงเห ตีให้เข้ารูปหุ้มอีกชั้นหนึ่ง หากผู้บูชาต้องการพกพาติดตัวก็มักจะถักเชือกปิดตัวเบี้ย ถักเป็นห่วงไว้รอยเชือกเพื่อความสะดวก
เบี้ยแก้หลวงปู่รอด นับเป็นเครื่องรางของขลังที่มีอานุภาพทุกด้าน ใช้ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ กันคุณไสย คนทำของใส่ ยาสั่ง หรือผีเข้า โดยใช้เบี้ยแก้อาราธนาทำน้ำมนต์ได้ หากบูชาติดตัวก็ให้ขอพุทธคุณช่วยให้ร้ายกลายเป็นดี แคล้วคลาด คงกระพัน ดีนักแลฯ
.
.
.
3.ไม้ครู คู่วัดอินทร์ (ตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภู)
.
หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร
.
หลวงปู่ภู จันทเกสโร (พระครูธรรมานุกูล) เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ท่านเป็นศิษย์เอกสมด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านเป็นผู้ที่ใกล้ชิดและได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาอาคมต่างๆ มากมาย หลวงปู่ภูเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง หยั่งรู้อนาคต และอดีต ท่านถือธุดงค์เป็นวัตร วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของท่าน คือ ไม้เท้าพ่อครู และพระพิมพ์สมเด็จต่าง ๆ ซึ่งมีพุทธานุภาพมาก และได้รับความนิยมสูง
.
.
ตะกรุดไม้ครู : ไม้ฟ้าผ่า
.
วัตถุอาถรรพณ์ที่หลวงปู่ภู ท่านจัดสร้างด้วยไม้ไผ่สีสุก ที่ถูกฟ้าผ่าและต้องล้มปลายทอดยาวไปทางทิศตะวันออกทั้งกอ แล้วยังต้องนั่งเฝ้าดูภายใน 7 วัน ถ้ามีช้างโขลงมาข้ามกอไผ่นี้ทั้งโขลง จึงจะถือว่าเป็นนิมิตมหามงคล ไผ่นี้นำมาใช้ได้ หลวงปู่ท่านจะประกอบพิธีพลีกรรม บอกกล่าวเทพยดา พระอิศวรเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง ก่อนจะทำการขอตัดลำไผ่ เอาส่วนปลายเพียง 3 ปล้องเท่านั้น เมื่อได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านก็นำมาจิ้มบนศพที่กล้าแข็ง คือ ศพคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ให้ครบ 7 ศพ ซึ่งเล่ากันว่าท่านต้องใช้ระยะเวลาในการเดินธุดงค์ถึง 30 ปี จึงทำได้สำเร็จ จากนั้นจึงนำไม้ท่อนนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็ก ๆ เรียกว่า ตอก ไว้สำหรับลง พระนาม* ที่ได้รับจากเบื้องบน อุดด้วยผงพุทธคุณ บางอันอาจจะบรรจุกระดูกแร้งลงไปด้วย อุดทับด้วยชันโรงใต้ดิน ตอกด้วยลิ่มไม้ปิดเอาไว้ แล้วลงอักขระทับอีกทีเป็นอันเสร็จพิธี
ไม้ครู นี้ถือเป็นสุดยอดแห่งไม้ครู ที่จัดอยู่ในชุดเครื่องรางมงคล 9 สะท้านแผ่นดิน “ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น” สามารถใช้ป้องกันตัวเมื่อยามคับขัน ป้องกันโจรผู้ร้าย คุณไสย และภูติผีปีศาจไม่กล้ากล้ำกลาย ซึ่งผู้ที่ถือครองต่างก็เห็นเป็นประจักษ์กันมานักต่อนัก
*มีตำนานเล่าถึงการสร้างไม้ครูว่า…
หลวงปู่ภู ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน มีลูกศิษย์เคยถามหลวงปู่ภูว่า… หลวงปู่มองขึ้นฟ้าทำไม?
ท่านตอบว่า… กูรอ พระนาม จากเบื้องบน
เมื่อได้ พระนาม จากเบื้องบนมาเเล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้พระนามเข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมเอาไว้ แล้วอุดผงพุทธคุณต่าง ๆ ตามขั้นตอนจนสำเร็จเป็น ไม้ครู อันเอกอุ
พระคาถา ไม้ครู
นะโม(3จบ) พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ธัมมังสะระนัง คัจฉามิ สังฆังสะระนัง คัจฉามิ
ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระฉัง อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ สี่คนเดินหน้า ห้าคนเดินหลัง โอมกะรัง กะรัง (3 จบ)
.
ขอบคุณภาพจาก…
2.g-pra.com/
Pinterest.com
Watnairong.com
Sarakadee.com
Komchadluek.net
horoscope.kapook.com/
FB ภาพถ่ายพระเกจิคณาจารย์
Fb- สยามมงคล / SiamMongkon
thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม
