.
หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร
.
หลวงพ่อโต (พระพุทธศรีอริยเมตไตรย) พระพุทธรูปปูนปั้น ปางอุ้มบาตร สูง 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก หรือ สูง 32 เมตร กว้าง 10 เมตร 24 นิ้ว พระพุทธรูปทั้งองค์ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกเคลือบทอง 24 เค จากประเทศอิตาลี
จัดสร้างขึ้นโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ในปี พ.ศ. 2410 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ยังไม่ทันได้สร้างเสร็จสร้างได้ถึงบริเวณพระนาภี (สะดือ) สมเด็จโตฯ ท่านได้มรณภาพ ไปก่อน บนศาลาวัดบางขุนพรหม (วัดอินทรวิหาร) (22 มิถุนายน พ.ศ. 2415) การก่อสร้างจึงหยุดลงชั่วคราวและได้ หลวงปู่ภู จันทเกสโร ศิษย์เอกของท่านเป็นผู้ดำเนินงานต่อ จากนั้นจึงมอบหมายให้ พระครูสังฆบริวาล (แดง) แห่งวัดบวรฯ ช่วยสานงานต่อมา จนถึงปี พ.ศ. 2467 พระอินทรสมาจาร (เงิน อินทสโร) ได้มาดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ในปี 2470 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และได้จัดให้มีงานสมโภชเป็นครั้งแรกเป็นเวลาสามวัน คือวันที่ 4-6 มีนาคม พ.ศ.2471
จนถึงปี พ.ศ. 2523 องศ์หลวงพ่อโต จึงได้รับการประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ บนยอดเกศ ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ที่รัฐบาลประเทศศรีลังกามอบให้
.
* มีเรื่องเล่าไว้ว่า การที่สมเด็จพุฒาจารย์ โต ท่านได้มาสร้าง หลวงพ่อโต ที่วัดอินทรวิหารนี้ก็เนื่องมาจาก ในครั้งวัยเยาว์ท่านได้มาอาศัยในที่บริเวณนี้ ได้บวชเณร เป็นศิษย์ในสำนักเจ้าพระคุณอรัญญิก หรือ พระอาจารย์แก้ว พระเถระจากเวียงจันทร์ ที่มีความรู้แตกฉานในด้านวิปัสสนา ซึ่งสมเด็จฯโต ท่านมีความเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ท่านจึงได้สร้างพระพุทธรูปไว้หลายขนาดในวัดอินทรวิหารแห่งนี้ และที่วัดนี้ก็ยังเป็นที่มรณภาพของท่านอีกด้วย
** แล้วเหตุที่ท่านสร้างพระพุทธรูป ปางอ้มบาตร ก็เพราะท่านได้ออกเดินบิณฑบาตครั้งแรกก็ที่วัดแห่งนี้
.
.
.
ประวัติ วัดอินทรวิหาร (วัดบางขุนพรหม)
.
วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ประมาณปี พ.ศ. 2295 วัดถูกสร้างขึ้นแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใครสร้าง บริเวณวัดอยู่ใกล้กับไร่พริกของชาวจีน จึงได้ชื่อว่า วัดไร่พริก ต่อมาภายหลังมีการก่อตั้งหมู่บ้านขึ้นและมีหัวหน้าหมู่บ้านชื่อเดียวกันว่า ขุนพรหม ที่เข้ามาบูรณะวัดทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดบางขุนพรหม
ในสมัยกรุงธนบุรี ประมาณปี พ.ศ. 2321 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ ทรงยกทัพไปปราบกบฏในฝั่งลาว และทรงจับตัวพระโอรสของพระเจ้าสิริบุญสาร (ผู้ก่อกบฏ) ชื่อ เจ้าอินทวงศ์ มาเป็นตัวประกันยังกรุงเทพฯ ต่อมาพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ทรงให้ เจ้าอินทวงศ์และผู้ติดตาม ได้มาตั้งบ้านเรือน ณ บริเวณตำบลไร่พริก
.
.
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงโปรดฯ พระราชทานที่ดินเพื่อขยาย วัดบางขุนพรหม โดยได้ เจ้าอินทวงศ์ ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ วัดบางขุนพรหม ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปทรงอุโบสถ จากอุโบสถแบบเตาเผาปูนที่มีอยู่เดิม ให้เป็นศิลปกรรมแบบอยุธยา และได้มีการเปลี่ยนจากชื่อ วัดบางขุนพรหม เป็น “วัดอินทร์”
ต่อมาในสมัยแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอินทรวิหาร” ด้วยชาวบ้านเรียกชื่อสั้นๆ ของ วัดอินทาราม ย่านตลาดพลู ว่า “วัดอินทร์” เหมือนกัน จึงเกรงว่าจะสับสนก็เลยเปลี่ยนมาเป็นชื่อ “วัดอินทรวิหาร” และใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน
.
.
.
บ่อน้ำพระพุทธมนต์ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
.
วิหารหลังเล็ก ๆ ที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือน สมเด็จโตฯ และบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่รวมพลังศรัทธาในองค์สมเด็จโต รวมถึงมีการเปิดบทสวดพระคาถาชินบัญชร ไว้ให้สาธุชนได้เข้ามาปฏิบัติสมาธิ หรือรวมสวดพระคาถาชินบัญชร เมื่ออธิฐานจิต ขอพร และเมื่อจะกลับก็ไม่ลืมจะขอรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากบ่อที่มียันตราโบราณที่ได้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน นำกลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อท่านได้เริ่มสร้างพระพุทธรูป ปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่นั้น ท่านได้ขุดบ่อน้ำ ไว้ให้ลูกศิษย์ผู้นับถือศรัทธา ที่มาขอน้ำมนต์จากท่านเป็นจำนวนมากในช่วงที่มีโรคระบาด ท่านจึงใช้บ่อน้ำที่ขุดนี้เป็นบ่อน้ำมนต์ ปลุกเสกน้ำให้มีพลังคุ้มครองด้วยพุทธมนต์ เพื่อเป็นการสงเคราะห์สาธุชนญาติโยมทั้งหลาย
ต่อมา ฯพณฯ จอมพลผิน ชุณหะวัณ ได้มาซ่อมแซมบูรณะบ่อน้ำโดยทำเป็นหลังคาคลุม มีเสาอยู่ตรงกลาง จนถึงปี พ.ศ.2530 พระโสภณธรรมวงศ์ (ทองสืบ สจฺจสาโร) จึงได้ให้ช่างมารื้อหลังคาเดิมและสร้างอาคารใหม่รูปทรงคล้ายเจดีย์ แล้วเสร็จบริบูรณ์ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2531
โดยตรงกลางบ่อน้ำพระพุทธมนต์ ได้อัญเชิญแผ่นยันต์ 121 พระคาถา ซึ่งเป็นลายมือของ สมเด็จโตฯ ท่านได้จารและปลุกเสกขึ้นเอง แผ่นยันต์นี้ถูกฝังไว้ก้นบ่อน้ำตั้งแต่สร้างบ่อครั้งแรก และได้จารึกพระคาถาชินบัญชร กับ พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก และยังมี พระคาถาธาตุ ๔ ฯลฯ ไว้ที่ก้นบ่อด้วย
โดยเมื่อครั้งบูรณะบ่อน้ำนี้ ทางวัดได้ขุดพบแผ่นยันต์บรรจุพระคาถาเหล่านี้ที่ใต้บ่อ แล้วนำขึ้นมารวมกันไว้ในบ่อ นอกจากนี้ หลวงพ่อทองสืบ อดีตเจ้าอาวาสวัดอินทร ท่านยังได้รวบรวมน้ำพระพุทธมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ จากทั่วพระราชอาณาจักร 381แห่งมาเป็นต้นเชื้อผสมไว้อีกด้วย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จเป็นองค์ประธาน ประกอบพิธีเปิดป้ายอาคารคลุมบ่อน้ำพระพุทธมนต์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมรํสี) เมื่อวันอังคาร ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2531
.
.
* ในบ่อดินเดิม มีแผ่นศิลาจารอักขระด้วยลายมือของสมเด็จฯ โต เมื่อมีการขุดค้นพบ ทางวัดจึงได้นำเอาแผ่นศิลาที่ขุดพบทั้งหมดบรรจุไว้ในบ่อ และโยงสายสิญจน์จากมือหุ่นรูปเหมือนท่าน เป็นเสมือนหนึ่ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต ท่านได้มาประกอบพิธีปลุกเสกน้ำมนต์เช่นในอดีต
.
** ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ได้ทรงให้มีการตัดถนนผ่านกลางวัดขุนพรหม ด้วยเหตุนี้ทำให้ วัดบางขุนพรหม ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เกิดเป็นวัด 2 วัดขึ้น
1.วัดบางขุนพรหม-นอก (ปัจจุบัน คือ วัดใหม่อมตรส)
2.วัดบางขุนพรหม-ใน (ปัจจุบัน คือ วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง)
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
.
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
komchadluek.net/
travel.trueid.net/
gplace.com/
ippangift.com/
lemon8-app.com/
historyoftemples.kachon.com/
FB วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง
watindharaviharn.watportal.com/ วัดอินทรวิหาร
