
ประวัติ วัดพนัญเชิง
วัดพนัญเชิง มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และ ชาวจีน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ต.สวนพูล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าก่อสร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา โดยมีตำนานกล่าวถึง พระเจ้าสายน้ำผึ้ง เป็นผู้สร้างวัด ณ บริเวณที่พระราชทานเพลิงศพ พระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า วัดพระนางเชิง
ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐกล่าวว่า ได้มีการสถาปนาพระพุทธรูปนาม พระเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งเป็นยุคสมัยก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีถึง 26 ปี และตลอดเวลาที่ผ่านมา จะมีพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยามาบูรณะซ่อมแซมวัดให้อยู่ในสภาพดีโดยตลอดมาไม่ขาดสาย

.
.
.
.
.
.
.
.
วัดพนัญเชิง โศกนาฏกรรมแห่งรัก

ตำนานพงศาวดารเหนือบันทึกเรื่องราวของ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์ผู้ครองอโยธยา กับ พระนางสร้อยดอกหมาก พระราชธิดาบุญธรรมของพระเจ้ากรุงจีน ที่เดินทางมาทางเรือสำเภาเพื่ออภิเษกสมรสกับพระเจ้าสายน้ำผึ้ง หลังจากกระบวนเรือสำเภาส่งเสด็จพระนางฯ จากกรุงจีนล่องมาถึงปากน้ำอโยธยา พระนางทรงเห็นแต่เหล่าเสนาอำมาตย์มารอต้อนรับ แต่กลับไม่เห็น พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ซึ่งกำลังเตรียมการอยู่ภายใน พระนางฯทรงน้อยพระทัยที่ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ จึงไม่ยอมเสด็จลงจากเรือ ครั้นเมื่อพระเจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จลงเรือมาเชิญพระนางฯ ด้วยตนเอง พระนางฯ จึงตัดพ้อต่อว่า โดยพระเจ้าสายน้ำผึ้งได้ทรงสัพยอกไปว่า “เมื่อไม่อยากขึ้นก็จงอยู่ที่นี่เถิด” พระนางฯ ได้ฟังดังนั้นก็น้อยพระทัย พระนางสร้อยดอกหมาก จึงทรงกลั้นพระทัยจนถึงแก่สวรรคตที่บนเรือนั้นนั่นเอง

บริเวณริมฝั่งน้ำที่จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพพระนางฯ จึงเป็นที่ตั้งและเป็นที่มาของวัดชื่อ วัดพระนางเชิง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น วัดพนัญเชิง ในปัจจุบัน และภายในบริเวณวัดยังมีตำหนักและรูปปั้น เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ประดิษฐานอยู่ ชาวจีนเรียกพระนางว่า จู๊แซเนี้ย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะของชาวไทย – จีน
มีความเชื่อกันว่า คู่รักใดหากอยากสมหวังในความรัก ให้มากราบไหว้ขอพรจาก เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก หรือจะมาขอเรื่องมีบุตร ขอความสำเร็จ การเงิน ค้าขาย ขอให้หายจากโรคภัยก็ได้ตามนั้น จนมีผู้นำของมาแก้บนเต็มไปหมด โดยส่วนมากจะบนด้วย สร้อยไข่มุก เครื่องสำอาง สิงโตเชิด และเครื่องสังเวยต่าง ๆ
.
.
หลวงพ่อโต : เจ้าพ่อซำปอกง

.
พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง พุทธรูปปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิราบ ศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลาย เป็นปูนปั้นลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูง 19.20 เมตร ประดิษฐานภายในวิหารวัดพนัญเชิง หลวงพ่อโต เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไปมาแต่โบราณกาล และในหมู่ชาวจีนก็ให้ความนับถือหลวงพ่อโตเป็นอย่างยิ่ง เรียกขานท่านว่า “ซำปอฮุดกง” หรือ “เจ้าพ่อซำปอกง” แปลว่า ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล
พงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1868 หรือตรงกับรัชสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ครั้งสถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปี และเมื่อกรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียกรุง มีปรากฏในคำให้การชาวกรุงเก่ากล่าวไว้ว่า พระปฏิมากรใหญ่ที่วัดพนัญเชิง มีน้ำพระเนตรไหลเป็นที่อัศจรรย์ หลวงพ่อโต เป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงเก่า มีมาตั้งแต่แรกสร้างกรุง ครั้งถึงสมัยรัชกาลที่ พระองค์ทรงประทานพระนามใหม่ให้หลวงพ่อโต ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
.
.
เหรียญหลวงพ่อโต รุ่นแรก ปี 2460

“พระพุทธไตรรัตนนายก” คือพระนามของ หลวงพ่อโต ชาวจีนเรียกท่านว่า ซำปอฮุดกง พุทธองค์ใหญ่ ศิลปะอู่ทอง ปางมารวิชัย เนื้อปูนปั้นปิดทอง ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดพนัญเชิง และคู่บ้านคู่เมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเนิ่นนาน
ในปี พ.ศ. 2460 วัดพนัญเชิง ได้มีการจัดสร้าง เหรียญหลวงพ่อโต เป็นรุ่นแรก สันนิณฐานว่าพระรุ่นนี้ได้จัดสร้างพร้อมกับการสร้าง เหรียญหลวงพ่อโสธร ปี 2460 เพราะที่เหรียญหลวงพ่อโตรุ่นนี้ไม่ได้ระบุปี พ.ศ. ที่จัดสร้าง ซึ่งเป็นที่รู้กันในคนแวดวงนิยมพระเครื่องและวัตถุมงคลโดยทั่วกัน

เอกลักษณ์ของเหรียญ ด้านหน้ารูปหลวงพ่อโต และพระอัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวา คือ พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ซึ่งจำลองจากองค์จริงที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารวัดพนัญเชิง เหรียญเป็นรูปอาร์ม ปั๊มมีหูในตัว ด้านบนซ้ายมือเขียนว่า “พระพุทธไตร” ด้านบนขวามือเขียนว่า “รัตนนายก” อันเป็นพระนามเต็มของหลวงพ่อโต
ส่วนด้านหลัง ตรงกลางปั้มอักขระขอม “อิ สะ วา สุ” อยู่ภายในขมวดยันต์ช่องละตัว มี ๔ ช่อง ด้านบนเขียนว่า “วัดพนัญเชิงกรุงเก่า” ด้านล่างปั้มภาษาจีน “ซำ ปอ ฮุด กง” พระนามที่ชาวจีนเรียกขานท่านเอาไว้ เหรียญหลวงพ่อโต รุ่นแรก ปี 2460 นี้ เป็นที่นิยมกันมากและหาได้ยากยิ่งในแวดวงนักนิยมสะสม เพราะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง มีการจัดบูชากันในราคาสูงเป็นหลักแสนหรือหากสภาพสวย ๆ เส้นสายคมชัดก็หลักล้านกันเลยในปัจจุบัน.
.

.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก..
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
Thairath.co.th
Komchadluek.nte
asianculturesmuseum.org
FB เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก
Thaprachan.com / ท่าพระจันทร์ดอทคอม