ประวัติ : คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

คุณแม่บุญเรือน เกิดวันอาทิตย์ที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๗ ท่านเกิดในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน บิดาชื่อ นายยิ้ม กลิ่นผกา มารดาชื่อ นางสวน กลิ่นผกา เป็นชาวคลองสามวา มีนบุรี เมื่ออายุได้ 15 ปี ท่านเรียนวิชานวดและตำราหมอนวดจาก อาจารย์กลิ่น (ปู่) หมอนวดที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ท่านได้ศึกษาจนแตกฉานจนเป็นหมอนวดที่มีชื่อเสียง
เมื่อวัยสมควรท่านได้สมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม ประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า และท่านได้ทำการรับรักษาโรคด้วยการนวดเป็นการกุศล ทั้งยังเป็นหมอตำแยแผนโบราณอีกด้วย ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาก โดยท่านไม่เคยคิดค่านวดหรือค่ารักษาแม้ครั้งเดียว แต่ท่านจะให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครูบาอาจารย์เสมอมา ท่านยังได้รับการสั่งสอนธรรมะและปฏิบัติกรรมฐานกับ หลวงตาพริ้ง (ลุง) วัดบางปะกอก พระสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ซึ่งท่านก็หมั่นเพียร
ต่อมาคุณแม่บุญเรือน ก็ยังมีโอกาสได้ปฏิบัติและศึกษาธรรมมากขึ้น โดยมีท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระรัชชมงคลมุนี” เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (ในสมัยนั้น) เป็นพระอาจารย์สอนสมถะวิปัสสนากรรมฐานให้ ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ท่านและสามีได้ไปฟังธรรมและฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานที่ วัดสัมพันธวงศ์ เป็นประจำ ทำให้คุณแม่บุญเรือนที่มีใจฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ท่านจึงได้ออกปากขออนุญาตจากสามีเพื่อบวชเป็นแม่ชีที่วัดสัมพันธวงศ์นั่นเอง ซึ่งผลการปฏิบัติของท่านก็มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ท่านเป็นผู้นำในการจัดตั้งคณะผู้ร่วมบุญในนาม “คณะสามัคคีวิสุทธิ” ซึ่งช่วยเหลืองานบุญงานกุศลต่างๆ ตลอดจน รักษาโรคภัยไข้เจ็บนานัปการด้วยอำนาจพระพุทธคุณแก่ทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่เลือกชั้นวรรณะ ด้วยความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ยึดถือหลักการบริจาคและการให้เป็นธรรมทาน เป็นสำคัญ

คุณแม่บุญเรือน อุบาสิกาผู้มีอภิญญา ได้เมตตาช่วยเหลือผู้คนมากมายในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการรักษาโรคภัยและการปฏิบัติธรรม ทุกวันนี้บารมีของท่านยังคงช่วยเหลือผู้คนในปัจจุบัน ไม่ว่าด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ขัดสนทรัพย์สิน หรือความเจริญก้าวหน้าทางโลกและทางธรรม มีผู้มีประสบการณ์มากมายในหมู่ผู้เคารพศรัทธาในท่าน และสานุศิษย์เอง โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ และการเงิน
คุณแม่บุญเรือน ได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๗ เวลา ๑๑.๒๐ น. สิริอายุรวม ๗๐ ปี
*อัฐิของ คุณแม่บุญเรือน ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ ท่านสามารถไปกราบสักการะได้ที่ วิหารแก้ว วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี หันหน้าเข้าหาองค์พระประธาน พระธาตุจะอยู่ในผอบขวามือสุด
.
.
.
คุณแม่บุญเรือน ความศักดิ์สิทธิ์เหนือกาลเวลา

แม้คุณแม่บุญเรือนจะจากไปกว่า 60 กว่าปีแล้ว แต่ในทุกวันนี้ยังมีผู้คนเคารพศรัทธาไปกราบขอพรท่านอยู่เสมอ โดยสานุศิษย์ของคุณแม่ต่างพร้อมใจไปชุมนุมกันในวันอาทิตย์ เพื่อสวดมนต์ต่อหน้ารูปหล่อของท่าน
หลังจากการสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว บรรดาสานุศิษย์จะขอรับเอาสิ่งของต่างๆ ที่มีผู้นำมาสักการบูชา เช่น ผลไม้ น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย สาคู และปูนสีแดง ที่ใช้ทาใบพลู โดยอธิษฐานขอให้สิ่งของต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นยาแก้โรคต่างๆ ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจ ที่หลายคนหายขาดโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์
บางรายยังเอาไพลทุกชนิดไปถวายต่อหน้ารูปปั้นของคุณแม่บุญเรือน แล้วจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาท่าน อธิษฐานจิตขอให้ท่านดลบันดาลให้ไพลนี้กลายเป็นโอสถทิพย์ จากนั้นก็จะนำไพลนั้นไปทารักษาโรค เชื่อว่ามีฤทธิ์กำจัดโรคภัยได้
*ร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิที่ ศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาทิตย์บ่ายโมง ณ วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพ
.
.
.

.
.
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
Th.wikipedia.org
Pinterest.com
Sanook.com
Komchadluek.net
Thairath.co.th
prathaprachan-mag.com / นิตยสารพระท่าพระจันทร์