
อัศจรรย์หลวงพ่อโต

มีเรื่องเล่าเมื่อครั้งที่หลวงพ่อโต ยังประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลังเก่าว่า บางวันที่เป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ ช่วงเวลากลางคืน ผู้คนจะได้ยินเสียงพึมพำอยู่ในวิหารคล้ายเสียงสวดมนต์ ครั้นเมื่อเข้าไปดูก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในนั้นเลย
บางคราวพระภิกษุสามเณรในวัดจะเห็น พระภิกษุชราห่มจีวรสีคร่ำคร่า ถือไม้เท้าเดินออกมายืนสงบนิ่งอยู่หน้าวิหาร ผู้ที่พบเห็นต่างก็เรียกกันมาดู เมื่อทุกคนเห็นพร้อมกันดีแล้ว ภิกษุชรารูปนั้นก็เดินหายเข้าไปในวิหารตรงองค์ของหลวงพ่อโต เป็นดังนี้หลายครั้งหลายหน
บางครั้งจะมีผู้เห็นเป็นชายชรารูปร่างสง่างาม มีรัศมีเปล่งปลั่ง นุ่งขาวห่มขาวเข้ามาหาหลวงพ่อโต แล้วก็หายไปตรงพระพักตร์ของท่าน
.
.
ปาฏิหาริย์หลวงพ่อโต
1.เล่ากันว่า เมื่อครั้งสร้างพระอุโบสถเสร็จใหม่ ๆ ได้วัดช่องประตูพระอุโบสถกับองค์หลวงพ่อโต ปรากฏว่าช่องประตูใหญ่กว่าองค์หลวงพ่อโตประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งสามารถนำองค์หลวงพ่อโตผ่านเข้าไปได้
แต่เมื่อถึงคราวอาราธนาพระเข้าอุโบสถจริง ๆ กลับปรากฏว่าองค์หลวงพ่อโตนั้นกลับใหญ่กว่าประตูมาก คณะกรรมการและประชาชนจำนวนหนึ่งเห็นว่าควรทุบช่องประตูทิ้ง แต่อีกจำนวนหนึ่งเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อโต จึงได้พร้อมใจกันอธิษฐานขอให้หลวงพ่อโตสามารถผ่านเข้าประตูได้ เพื่อจะได้เป็นมิ่งขวัญคุ้มครองชาวบางพลีสืบไป เมื่ออธิษฐานเสร็จก็อาราธนาหลวงพ่อโตผ่านเข้าประตูอุโบสถได้โดยสะดวก

2.เกิดเหตุการณ์อันเป็นปาฏิหาริย์ขององค์หลวงพ่อโต โดยในปี พ.ศ. 2520 และ ปี พ.ศ. 2522 องค์หลวงพ่อโต ซึ่งหล่อขึ้นจากทองสำริดกลับนุ่มนิ่มเช่นเดียวกับเนื้อมนุษย์ จนกลายเป็นข่าวโด่งดังแพร่สะพัดในทั่วในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ข่าวนั้นทำให้ประชาชนทั่วไปผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อโตจากทั่วทุกสารทิศต่างก็เดินทางพากันมาชื่นชมบารมี
3.น้ำมนต์หลวงพ่อโต สามารถรักษาผู้เจ็บป่วยให้ทุเลาลงจนหายเป็นปกติได้ เรื่องนี้ ท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา อายุ 68 ปี ภริยาของท่านพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เล่าให้กับผู้ใกล้ชิดฟังว่า ท่านเคยป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งที่บริเวณลำคอ ตรงใต้ลิ้น ซึ่งทรมานมาก รับประทานอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับมาเป็นเวลาแรมปี จนร่างกายซูบผอมจนน่าวิตก
แพทย์แนะนำให้ท่านผ่าตัดหรือฉายรังสี แต่ท่านผู้หญิงฯ ขอรักษาด้วยยาสมุนไพร และทานยาเม็ดแผนปัจจุบันแทน แต่ก็ไม่ช่วยให้มะเร็งที่ลำคอบรรเทาลง ทำความเจ็บปวดทรมานจนในใจท่านเวลานั้นคิดว่าตนต้องตายแน่
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมาเล่าให้ฟังว่า พระพุทธรูปที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน” มีเนื้อนุ่มนิ่มเหมือนคน มีความศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ท่านผู้หญิงฯ จึงเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อโต พร้อมอธิฐานเสี่ยงทายว่า หากบุญวาสนาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปของให้องค์หลวงพ่อโตมีผิวอ่อนนุ่มให้เห็นเป็นอัศจรรย์ กำหนดจิตแล้วท่านผู้หญิงฯ ก็ยื่นมือไปแตะที่องค์พระ ทันใดนั้นท่านก็ขนลุกซู่ด้วยความปีติ เมื่อผิวโลหะที่นิ้วกดนั้นกลับบุ๋มลงไปตามแรงกด เหมือนดังผิวเนื้อมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์

ท่านผู้หญิงฯ ก้มกราบลาหลวงพ่อโตด้วยความศรัทธา พร้อมขอน้ำมันน้ำมนต์หลวงพ่อโตจากวัดมาใช้ทาแผลใต้ลิ้นและบริเวณลำคอด้านนอก ทั้งจิบดื่มไปด้วย ไม่นานปรากฏว่าแผลที่บวมเป็นก้อนใต้ลิ้นได้แตกทะลักออกมานอกลำคอ แล้วอาการเจ็บป่วยของท่านผู้หญิงฯ ก็หายวันหายคืนจากนั้นมา
เรื่องราวอัศจรรย์นี้บันทึกไว้ในเรื่อง “ตายแล้วพื้น” ของคุณสนิท ธนรักษ์ นักหนังสือพิมพ์อาวุโส
ชาวบางพลีต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และบารมีขององค์หลวงพ่อโต ว่าท่านสามารถคุ้มครองให้ชาวชุมชนบางพลี แคล้วคลาด ปลอดภัย หายจากโรคภัย นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อโต ที่แสดงปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธาเลื่อมใสในบารมีองค์หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน
.
.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
Thairath.co.th
Thaprajan.blogspot.com
Pinterest.com
Palungjit.org
Th.wikipedia.org
เพจ รูปถ่ายจาก iphone
Fb วัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง 130