
พ่อท่านคล้ายเสกปืนให้ตำรวจ
มีเรื่องเล่าถึงอิทธิปาฏิหาริย์ของ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระเถราจารย์ชื่อดังแห่งเมืองนครศรีธรรมราชมากมาย เพราะพ่อท่านคล้าย เป็นพระที่มีพุทธาคมแก่กล้า มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่อดีตตราบจนปัจจุบัน.
ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชน และข้าราชการตำรวจทหารในแถบเมืองนครศรีธรรมราช
มีนายตำรวจท่านหนึ่ง เป็นผู้กองได้ยินกิตติศัพท์ของพ่อท่านคล้าย จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาเดินทางไปกราบท่านถึงที่วัดตอนนั้นเวลาก็บ่าย พ่อท่านนั่งรับศรัทธาลูกศิษย์ที่เดินทางมากราบขอพรตามปกติทุกวัน

นายตำรวจท่านก็คานเข่าเข้าไปกราบพ่อท่านแล้วก็ กราบเรียนว่า “กระผมเป็นตำรวจ อยากจะขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพ่อท่าน ตัวผมได้รับภารกิจเดินทางไปปราบโจรผู้ร้าย จึงอยากจะขอของดีกับพ่อท่านไว้เป็นขวัญกำลังใจขอรับ”
ในขณะนั้นพ่อท่านคล้าย ก็เปิดย่ามค้นหาวัตถุมงคล แต่ก็ปรากฏว่าไม่เหลืออะไรเพราะได้แจกจ่ายให้ลูกศิษย์คนอื่นไปหมดแล้ว พ่อท่านจึงกล่าวกับนายตำรวจท่านนั้นว่า “คุณได้แขวนพระอะไรมาไหมหละ เอามานี่เดี๋ยวฉันจะเสกให้อีก” นายตำรวจท่านนั้นจึงกราบเรียนไปว่า “ไม่ได้แขวนมาครับ” พ่อท่านจึงกล่าวกับนายตำรวจไปว่า “แล้วได้เอาปืนมาไหมหละ” นายตำรวจกราบเรียนไปว่า “เอามาครับผม” พ่อท่านจึงบอกว่า “เอาปืนมาวางไว้บนผ้าขาวตรงหน้านี่ เดี๋ยวฉันจะเสกปืนให้ เสกปืนก็เหมือนกับเสกพระนั่นแหละ”
แล้วพ่อท่านคล้ายก็จับปืนขึ้นมา หันปากกระบอกปืนเข้ามาทางปาก แล้วบริกรรมคาถาพร้อมกับเป่าพวดลงไปที่ปลายกระบอกปืน แล้วก็วางปืนลงพร้อมกับบอกตำรวจนายนั้นว่า “เอาละ พกติดตัวไว้ดีเป็นมงคล” นายตำรวจนายนั้น เมื่อได้รับปืนเสกจากพ่อท่านคล้ายแล้วก็มีความปีติใจยิ่ง กราบพ่อท่านคล้ายแล้วลากลับไป
มีครั้งหนึ่งนายตำรวจท่านนี้ ได้นำลูกน้องประมาณ 7 คน ออกลาดตระเวนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพราะมีข่าวจากสายสืบว่าจะมีคนร้ายเข้ามาในเขตนั้น ครั้งเวลาประมาณสามทุ่ม ได้มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งประมาณ 10 คนพร้อมอาวุธครบมือ มุ่งหน้าเข้ามาภายในหมู่บ้านพร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วร้องตะโกนว่านี่คือการปล้น ใครต่อสู้ขัดขืน ฆ่าทิ้งให้หมด

ด้วยสัญชาตญาณผู้พิทักษ์สันติราษเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น นายตำรวจท่านนั้นก็หยิบเอาปืนข้างเอวออกมา วิ่งกรูเข้าไปยิงต่อสู้กับคนร้ายนานเป็นเวลาเกือบ 20 นาที ลูกปืนที่กลุ่มโจรนับ 10 คน สาดใส่ตำรวจและลูกน้อง ต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันไปทุกคน มีแต่นายตำรวจท่านนี้ซึ่งเป็นหัวหน้า อยู่แถวหน้าได้ใช้ปืนเสกที่ตนได้รับจากพ่อท่านคล้ายต่อสู้กับโจรใจทมิฬเป็นเวลานาน
จนกระทั่งกำลังเสริมเดินทางมาถึงและเข้าปะทะกับกลุ่มโจรร้าย จนกลุ่มโจรแตกกระเจิงไป งานนี้ตำรวจสามารถวิสามัญโจรร้ายได้หลายราย
เมื่อเหตุการณ์สงบลงนายตำรวจท่านนั้นกลับไม่ได้รับอันตรายใดใดเลย ร่างกายมีรอยจ้ำแดงๆ คล้ายรอยไหม้สามสี่จุด เท่านั้น นายตำรวจท่านนี้ยิ่งเชื่อและศรัทธาในบารมีของ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เป็นอย่างมาก เมื่อได้พักร้อนก็เดินทางกลับมากราบสักการะขอพรพ่อท่าน แล้วเล่าเรื่องราวให้พ่อท่านฟัง

วาจาสิทธิ์ อทินนาทานาเวรมณี
มีชายคนหนึ่งอยู่บ้านหลักช้าง ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง เป็นคนลักเล็กขโมยน้อย จนเป็นที่เอือมระอารังเกียจของเพื่อนบ้าน ชาวบ้านจึงนำเรื่องนี้ไปข้าฟ้องกับ พ่อท่านคล้าย โดยหวังจะให้พ่อท่านช่วยตักเตือนห้ามปราม

พ่อท่านคล้าย เรียกชายคนนั้นเข้าพบแล้วถามว่า เป็นจริงอย่างนั้นหรือไม่ ชายคนนั้นรับว่าจริง พ่อท่านจึงว่า “การลักเขากินนั้นไม่ดี ทีหลังอย่าลักของเพื่อน ไปขอทานเสียยังจะดีกว่าเที่ยวลักขโมยของเขา” ชายคนนั้นก็รับคำ และเขาก็กลายเป็นคนขอทาน
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นคนมาจนกระทั่งบัดนี้ (๒๕๑๔) บางทีเราท่านก็อาจจะเคยเห็น เคยถูกขอ หรือเคยให้ทานแก่ชายคนนั้นไปบ้างแล้วก็เป็นได้ แม้กระทั้งชายขอทานคนนั้นเอง ก็ยังอ้างอยู่จนบัดนี้ว่า “พ่อท่านสั่งให้ขอทาน”
.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
Th.wikipedia.org
FB ต้นโพธิ์
FB บารมีพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์
FB พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์กับความศรัทธา
FB nakhon si thammarat นครศรีธรรมราช