หลวงพ่อโอภาสี วัดหลวงพ่อโอภาสี บางมด กรุงเทพฯ

หลวงพ่อโอภาสี พระสงฆ์ผู้ยึดมั่นในการบูชาไฟเพื่อแผดเผากิเลสในใจตนและสาธุชนให้เกิดปัญญา เล่ากันว่าท่านจะนำข้าวของเครื่องใช้ทั้งของท่านเอง หรือที่ญาติโยมนำมาถวายมาเผาไฟ เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสราคะทั้งหลาย ให้เหลือทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่านให้เห็นแจ้งแห่งสัจจธรรม หลวงพ่อโอภาสีท่านเป็นที่เคารพศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดและถือสันโดษเรียบง่าย เป็นที่เลือมใสของประชาชนเป็นอย่างมาก
ประวัติหลวงพ่อโอภาสี
หลวงพ่อโอภาสี นามเดิมว่า ชวน บิดาชื่อมิตร เป็นชาวนครศรีธรรมราช ท่านบวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ นครศรีธรรมราช สอบได้นักธรรมโท จึงได้มาศึกษาบาลีและนักธรรมเอกที่ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ จนสอบได้ เปรียญ 8 ประโยค ชาวบ้านเรียกขานกันว่า พระมหาชวน
ท่านได้มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมตามลำพัง จนวันหนี่งท่านได้ประกาศว่า…
“ มหาชวนนั้นตายไปแล้ว บัดนี้เหลือแต่ โอภาสี
ผู้ปรารถนาในความหมดสิ้นจากอาสวะทั้งหลาย”
ในเวลาต่อมาหลวงพ่อท่านได้ย้ายออกจากวัดบวรนิเวศฯ โดยออกเดินธุดงค์ไปในจังหวัดต่างๆ เพื่อแสวงหาที่สงบสัปปายะเหมาะกับการปฏิบัติธรรมและทำเตโชกสิณ ต่อมาท่านได้มาปักกลดในที่ของ นายเนียม ซึ่งเป็นคหบดีใจบุญ ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิขึ้นเรียกที่นี่ว่า สวนอาศรมบางมด สถานที่แห่งนี้ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น วัดหลวงพ่อโอภาสี ในเวลาต่อมา.

ปริศนาธรรม
หลวงพ่อโอภาสี ท่านจะสุมไฟไว้เพื่อเผาจตุปัจจัย สิ่งของที่มีผู้นำมาถวาย ไม่เว้นแม้เครื่องเพชร,ทอง หรือธนบัตรจำนวนมาก ต่างถูกโยนเข้ากองไฟทั้งสิ้น เมื่อชาวบ้านทราบจุดประสงค์ของท่านก็พากันซื้อน้ำมันก๊าซมาถวาย หลวงพ่อโอภาสี ได้เคยกล่าวว่า…
“โดยปกติ แสงไฟที่เผาผลาญสรรพสิ่งอื่นๆ
จนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านไปนั้น ก็จัดเป็นธาตุที่มีความร้อนสูงอยู่แล้ว
แต่ทว่าจิตใจมนุษย์เรายังมีความร้อนยิ่งไปกว่า”

*ร้อนไปด้วยความโลภ โกรธ และ หลง ไม่มีที่สิ้นสุด การจะดับความร้อนในกายใจมนุษย์ให้หมดไปได้ มีแต่ต้องเผากิเลสทั้งหลายให้หมดไปนั่นเอง.
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก…
Th.wikipedia.org
mthai.com
palungjit.org
facebook / ศาลเจ้าหลวงพ่อโอภาสี ซำเทียนไกล่ ไท้จือเหล่าเอี๊ยะกง
facebook / ภาพถ่ายพระเกจิคณาจารย์
facebook / พุทธาคม ปาฏิหาริย์อำนาจบุญ อริยะเหนือโลก