หลวงปู่ศิลา สิริจันโท
ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท อ.เมือง ร้อยเอ็ด
นามเดิมว่า ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ.2488 (บ้านเบิด ต.เบิด อ.รัตนบุรี สุรินทร์) บิดา-มารดา มีอาชีพทำนา ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 15 ปี ณ วัดธาตุประทับ และเมื่ออายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดบูรพาภิราม ร้อยเอ็ด
หลวงปู่ศิลา มีวัตรปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย ใฝ่เรียนรู้ศึกษาพระธรรม โดยท่านได้ศึกษาปริยัติ สอบนักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค เมื่อแตกฉานด้านปริยัติแล้ว ในช่วงประมาณปี 2517-19 ท่านได้ปลีกวิเวกออกปฏิบัติวิปัสสนาตามป่าเขาห่างไกล ได้ศึกษาอักขระธรรมอีสาน-ลาว คัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุน และวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ จนแตกฉาน เป็นที่เลื่องลือศรัทธาไปทั่วภาคอีสาน และ สปป.ลาว
ด้วยวัตรปฏิบัติ สันโดษ เรียบง่าย มีเมตตา พุทธาคมแกร่งกล้า และมีญาณหยั่งรู้เป็นที่ประจักษ์อย่างน่าอัศจรรย์ จึงเกิดเป็นความเลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงปู่ ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมปรกในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ต่างๆ มากมาย นับเป็นพระเกจิผู้โด่งดังแห่งยุค
สมณศักดิ์
พ.ศ. 2515 เป็น เปรียญธรรม 6 ประโยค รับพระราชทานพัดเปรียญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเป็นพระอาจารย์สอนที่ ร.ร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ด
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2564 เป็น “พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ วิมลศีลาจารวิศิษฏ์ ไพศาลศาสนกิจจาทร” ฐานานุกรมพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ในพระพรหมวชิรโสภณ วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง ร้อยเอ็ด
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวัชรธรรมโสภณ โกศลบริหารวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช และพิธีพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานพระราชทาน ณ พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
สาธารณสงเคราะห์
หลวงปู่ศิลา ได้สงเคราะห์อุปกรณ์และสถานที่ทางการแพทย์หลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, โรงพยาบาลกาฬสินธุ์, โรงพยาบาลร้อยเอ็ด, และโรงพยาบาลธวัชบุรี การมอบรถกู้ชีพ และรถกู้ภัยให้มูลนิธิหลายแห่ง เป็นต้น
นอกจากนั้นท่านยังได้สงเคราะห์สบทบทุนทางศาสนา เช่น สร้างสะพานเข้าหอเจ้าเฮือน 3 พระองค์ ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร สร้างพระอุโบสถวัดโพนโป่งให้แล้วเสร็จ ตำบลเวียงคุก อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย และบูรณะหลังคาพระอุโบสถวัดป่าศรีโพนทอง ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ดมอบเงินสมทบวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นต้น
ที่พำนัก
หลวงปู่ศิลา สมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นราช “พระราชวัชรธรรมโสภณ” (ศิลา สิริจนฺโท) ท่านได้ตราตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน (ธรรมยุต) บ้านทุ่งกระเดา ต.กุดปลาค้าว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และประธานคณะสงฆ์ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ต.เชียงเครือ อ.เมือง กาฬสินธุ์
บทสรุป
หลวงปู่ศิลา สิริจันโท อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา พัฒนาชุมชน ช่วยเหลือสังคม โรงเรียน โรงพยาบาล และช่วยเหลือผู้คนให้ผ่านอุปสรรคในชีวิตมามากมาย
นอกจากนี้ท่านยังได้มอบหลักคำสอนให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไปยึดมั่นในศีลธรรม คุณงามความดี ด้วยคำสอนที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยหลักธรรมในการดำรงชีวิต เช่น
“ให้พากันทำความดี รู้จักให้ทาน เรานี่ไม่เอาอะไรเห็นไหมล่ะ
ใครมาหาก็ทานให้เขาหมด เขาให้เรามา เราก็ทานต่อ”
“เมื่อรู้จักปล่อยและวาง ท่านจะมีความสุข”
“อันใดดีดี ให้พากันสร้างโลด คิดดี พูดดี ทำดี ผลก็จะดีตาม”
ขอบคุณ ข้อมูลและภาพจาก Google / wikipedia.org
