พระครูโศภณศาสนกิจ หรือหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง

แชร์บทความ

หลวงปู่กลิ่น หรือ พระครูโศภณศาสนกิจ มีนามเดิมว่า กลิ่น เกิดวันอังคารขึ้น 13 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู เวลา 2.00 น. ตามลักขณาสถิตเตโชธาตุ ราศีสิงห์ ตรงกับวันที่ 4 ตุลาคม ปี พศ.2408 บิดาชื่อนายเปลี่ยน มารดาชื่อนางอิ่ม นามสกุล จันทร์เปลี่ยน หลวงปู่กลิ่นเป็นพี่ชายคนโตเเละมีน้องสาวอีกคน เดิมบ้านอยู่ที่ตำบลบ้านเเพรก อำเภอนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เมื่ออายุได้ 11 ปี ท่านได้ไปศึกษาอักษรวิธี ที่วัดท้ายเมือง ตำบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี การศึกษาของท่านในครั้งนี้เป็นการศึกษาในอักษรไทย

เมื่ออายุได้ 17 ปี ท่านได้บวชเณร เเละได้ศึกษาอักษรขอมเเละภาษาบาลี ในสำนักท่านอาจารย์อิน วัดหงส์รัตนาราม จังหวัดธนบุรี จนอายุได้ 19 ปี โยมผู้หญิงของท่านได้ถึงเเก่กรรมท่านจึงได้ลาเพศบรรพชาเเล้วกลับมาอยู่บ้านเดิมของท่าน เมื่อปี 2426 ท่านได้ย้ายมาอยู่กับหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ตำบลบ้านเเหลมใหญ่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

อุปสมบท

เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี  จึงได้อุปสมบท ณ พัทสีมา วัดสะพานสูง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 8 ปีระกาพระอาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์รุ่ง วัดท้องคุ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์น้อย วัดสัลเลข (วัดสารีโข) เมื่ออุปสมบทเเล้ว ท่านมีฉายาว่า จนฺทรงฺสี  และได้พำนักอยู่ที่วัดสะพานสูงตลอดมาหลวงปู่กลิ่นท่านชอบศึกษาหนักไปทางวิปัสสนาธุระ พร้อมทั้งได้ศึกษาทางเวชศาสตร์จากหลวงปู่เอี่ยม เป็นจำนวนมาก จนถึงเมื่อเวลาที่หลวงปู่เอี่ยมได้มรณภาพไปเเล้ว การศึกษาเวชศาสตร์ของท่านจึงได้ลดลง
ปี พ.ศ. 2438 หลวงปู่กลิ่น ได้รับการเเต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสะพานสูง โดยความเห็นพร้อมกันเป็นเอกฉันท์ในทางฝ่ายประชาชนเเละทางคณะสงฆ์  ซึ่งมีพระปรีชาเฉลิม (เเก้ว) วัดเฉลิมพระเกียรติ เป็นผู้อนุมัติเมื่อหลวงปู่กลิ่นได้รับตำเเหน่งเจ้าอาวาสเเล้ว ปรากฎว่าท่านเป็นผู้มัธยัสไม่ต้องการเเสวงหาไม่สะสมในสิ่งที่ไม่จำเป็น และท่านถือสันโดษ ไม่มีโลภะเจตนาพร้อมทั้งได้วางหลักการปกครองวัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยยึดมั่นในสันติวิธีทุกประการ

หลวงปู่กลิ่นเน้นหนักไปทางข้อวัตรปฎิบัติ เเละปฎิสังขรวัดวาอาราม นับเเต่ท่านได้รับตำเเหน่งเจ้าอาวาสวัดสะพานสูงท่านเริ่มสถาปนาวัดให้เจริญขึ้นตามลำดับ อีกประการหนึ่งท่านเป็นผู้สนใจในทางคันถธุระ คือ การศึกษาเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีเเม้ในทางปริยัติท่านได้จัดหาครูมาสอน เเละได้จัดหาสถานที่เรียนพร้อมจัดหาหนังสือมาไว้มากมายอำนวยความสะดวกเเก่ผู้ศึกษา อนึ่งหลวงปู่กลิ่นเป็นผู้ชำนาญในทางเวชกรรม ท่านจึงได้จัดพิมพ์ตัวยาที่ท่านเคยใช้ ไว้ข้างท้ายนี้ตามสมควรในทางอิทธิเวช
ท่านได้ศึกษามาได้อำนวยเเก่บรรดาศิษย์เเละบุคคลอื่นๆที่เจ็บป่วยมาให้หายจากโรคต่างๆ ในทางคาถาอาคม ท่านได้ปลุกเสกเลขยันต์ย่อมเป็นที่ซาบซึ่งในอิทธิปาฎิหารย์เเก่ศิษย์เป็นอย่างดี ท่านได้เข้าร่วมในพิธีปลุกเสกเเหวนมงคลเก้า เเละเสมารูปสมเด็จพระสังฆราชของราชการหลายครั้งด้วยกัน นอกจากนี้ท่านเป็นผู้ชำนาญท่านโหราศาสตร์อีกด้วย โดยอาศัยวิชาความรู้เเละคุณธรรม ท่านจึงเป็นที่เคารพนับถือของบรรดาศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

บั้นปลายชีวิต

ปี พ.ศ. 2490 ท่านมีอายุย่างเข้า 82 ปี ท่านได้เริ่มป่วยด้วยโรคชราเล็กน้อยเเต่ยังไปไหนมาไหนได้เป็นปกติ ต่อมาวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2490 เวลา 4.00 น.ท่านได้เริ่มป่วยเป็นลมหน้ามืด มีอาการเสียดเเทงขึ้นตามเส้นสูญของท้อง เมื่อฉันยาเเล้วอาการก็หายปกติ วันรุ่งขึ้น วันที่ 7 ท่านมีอาการกำเริบอีก ในวันที่ 8 อาการท่านไม่ทุเลาลงเเต่รุนเเรงทวีขึ้นตามลำดับ นายเเพทย์ได้ฉีดยาเเละถวายยาให้อาการก็ทรงอยู่เป็นพักๆ ตามความเห็นของเเพทย์ลงความเห็นว่า กระเพาะอาหารเเละลำไส้หยุดทำงาน เมื่อถึงเวลา 19.00 น. ไตของท่านก็ได้หยุดทำงานไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้  อาการท่านก็หนักขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลา 1.10 น. ของวันที่ 8 มกราคม 2490 ท่านจึงได้มรณภาพลงท่ามกลางพยาบาลที่รักษาเเละบรรดาศิษย์ รวมอายุได้ 82 ปี โดยประมาณพรรษากาลได้ 61 พรรษา

ติดต่อลงประกาศข้อมูลพระเครื่อง

บทความเพิ่มเติม